วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สปอยล์ขั้นรุนแรง7

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ ว่าจะสปอยล์เฉพาะการแข่งของเซย์โด
และเรื่องราวภายในของเซย์โด (จะมากจะน้อยก็...ฮ่าาาาา) ส่วนทีมอื่นหรือการแข่งของทีมอื่น
จะสรุปแค่คร่าวๆ เท่านั้นนะคะ...สปอยล์แบบลำเอียงสุดๆๆ

เอาเป็นว่า เซย์โดผ่านเข้าไปสู่รอบสี่ทีมสุดท้าย พบกับเซย์โกะ ที่เอาชนะทีมเซ็นเซ็นไปได้
ส่วนสถานการณ์ภายในของทีมอินาชิโระ ก็เริ่มจะดีขึ้น เมื่อทั้งนารุมิยะกับอิทสึกิเริ่มปรับตัวเข้ากันมากขึ้น
ถึงจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ถือว่าต่างฝ่ายต่างรับฟังกันมากขึ้น...หุหุหุ

ส่วนทางเซย์โดนั้น หลังจากกลับมาถึงโรงเรียน นัดนี้ที่ฟุรุยะเอาแต่นั่งดูก็เกิดอิจฉาขึ้นมา
จึงไปหาโค้ชโอจิไอให้ช่วยสอนขว้างลูกให้ ซึ่งโค้ชก็สอนให้ขว้างลูกสไลด์
ส่วนโค้ชคาตาโอกะก็เรียกซาวามูระไปพบ เพื่อกล่าวชมเชยและเตือนสติว่า...เมื่อยังไม่ถึงเป้าหมาย
ก็อย่าเพิ่งเหลิงไปกับปัจจุบัน จนลืมพัฒนาฝีมือตัวเอง

จึงทำให้ซาวามูระนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เจอโค้ช และประกาศว่าตัวเองมาเพื่อเป็นเอชของทีม
ส่วนซาวามูระก็บอกให้โค้ชเตรียมตัวไว้ให้ดี...เพราะเหลืออีกสองนัดเท่านั้น ก็จะได้ไปโคชิเอ็ง
และผู้เล่นทุกคนจะไม่ปล่อยให้โค้ชลาออก และทิ้งทีมที่ได้ไปโคชิเอ็งอย่างเด็ดขาด

ส่วนคาวากามิที่ยังไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือตัวเอง ก็ขอร้องให้มิยูกิอยู่ช่วยฝึกซ้อมกับตน เพราะรู้สึกว่าตัวเอง
กำลังจะถูกรุ่นน้องทิ้งห่างไปทุกที มิยูกิไม่ปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่ช่วยจนกว่าจะพอใจ

อืม...หลังจากนั้น ก็มีแข่งภายใน ระหว่างทีม เอ ซึ่งเป็นผู้เล่นตัวจริง และทีม บี ของผู้เล่นตัวสำรอง
ซึ่งโค้ชคาตาโอกะให้โค้ชโอจิไอคุมทีมเอ ส่วนตัวเองจะคุมทีม บี และให้ฟุรุยะเป็นสตาร์ทเตอร์
คาวากามิ เป็นรีรีฟของทีมเอ ส่วนซาวามูระ เป็นสตาร์ทเตอร์ของทีมบี ในตอนแรกซาวามูระยังไม่เข้าใจ
แต่คาริบะอธิบายว่า โค้ชคงอยากหาสตาร์ทเตอร์ที่จะใช้ลงแข่งกับเซย์โกะ


การแข่งครั้งนี้ได้ อดีตกัปตันยูกิ เท็ตสึยะ มาเป็นหัวหน้ากรรมการ และนาเบะกับเพื่อนคอยบันทึกวีดีโอไว้

และการแข่งก็เป็นไปตามคาด ทีมเอ ของผู้เล่นตัวจริงเอาชนะไปได้...แต่ซาวามูระที่ลงเล่นให้ทีมบีนั้น
ปล่อยคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามแค่คะแนนเดียว เช่นเดียวกับฟุรุยะและคาวากามิที่ปล่อยคนล่ะหนึ่งแต้มให้ทีมบี

ซึ่งผลพลอยได้จากการแข่งครั้งนี้ก็คือ ผู้เล่นทีมบี ต่างก็ยอมรับฝีมือของซาวามูระมากขึ้น
ผมก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเหมือนกัน ที่มีคนคอยระวังให้
นอกจากนี้แล้วขณะแข่งก็ได้ทำการเปิดตัว ว่าที่น้องใหม่อีกคนของเซย์โด นั่นก็คือ ยูกิ มาซาชิ น้องชายของ
อดีตกัปตันยูกิ เท็ตสึยะ...((เซย์โดเป็นทีมครอบครัว...มีพี่ก็ต้องมีน้อง เอิ๊กส์))
มาดูบรรยากาศภายในทีมของเซย์โด ก่อนจะตัดสินใจมาเรียนที่นี่ ตามการทาบทามของเรย์ ผู้ช่วยโค้ช
ยูกิ มาซาชิ พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
ส่วนแขกที่มาเยี่ยมเซย์โดอีกคนขณะแข่งภายในก็คือ ซากากิ...อดีตโค้ชของเซย์โด
ที่เคยพาเซย์โดไปโคชิเอ็งมาแล้ว และเป็นโค้ชของโค้ชคาตาโอกะสมัยที่ยังเป็นผู้เล่นของเซย์โดอยู่
ซึ่งอดีตโค้ชได้เล่าเรื่องของโค้ชคาตาโอกะสมัยนั้นให้ฟัง และบอกว่าที่คาตาโอกะมาเป็นโค้ชแทนที่
จะเทิร์นโปรนั้น คงเป็นเพราะความรู้สึกติดค้างในสมัยนั้น ที่ตั้งใจจะทำให้ตนเป็นโค้ชของแชมป์โคชิเอ็ง
แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่รองแชมป์ จึงมาเป็นโค้ชเพื่อทำตามคำสัญญานั้นให้ได้

สุดท้ายอดีตโค้ชซากากิ ก็บอกกับทุกคนโดยเฉพาะโค้ชคาตาโอกะว่า ที่มาครั้งนี้ก็เพื่อประกาศสงคราม
เพราะตนเองจะกลับมาเป็นโค้ชให้กับทีมยูระ ซึ่งเป็นทีมในเขตโตเกียวตะวันตก (เขตเดียวกับเซย์โด)
...อย่าหนีไปก่อนล่ะ เท็ตชิน ((ชื่อของโค้ชคาตาโอกะ...หุหุหุ ลืมไปแล้วนะเนี่ย))

+++++++++++

แถมท้ายด้วย...สปอยล์ตอนล่าสุด 391 ((24 กค.๗๗))

สรุปไรจิขโมยเบสสำเร็จเพราะมิยูกิขว้างบอลพลาด ทำให้คุรามิโจต้องขยับเท้าออกจากเบสเพื่อมารับบอล
มิยูกิจึงของเวลานอกและมาหาซาวามูระที่เนินขว้างลูก...ชื่อตอนนี้คือ การปรึกษาบนเนินขว้างลูก
ซึ่งเปิดมาด้วยหน้าสีด้วยนะ...หุหุหุห
คู่แบทเตอรี่เริ่มจะ...(ออกเกรียน)กันแล้ว
ฮารุจจิ "อ่า...วางแผนร้ายกันอีกแล้ว"
  
ตอนนี้เล่ม 42 กับ ไกด์บุ๊กเล่ม 2 ออกมาแล้ว...(อยากได้ เมื่อไรจะมี สนพ.ตีพิมพ์เรื่องนี้สักที)

((ต้องขอโทษด้วยนะ...ที่ภาพไม่ชัด บอกตรงๆๆ ว่าไม่ค่อยถนัดโปรแกรมแต่งภาพ กระซิกๆๆ))


สรุปเจ้าทึ่มก็ยังไม่รู้อยู่ดี อาเฮียแกได้รับบาดเจ็บ...

มิยูกิขอลูกคัตเตอร์วงใน...แต่บังเอิญเจ้าของต้นตำรับเดิมอย่างซานาดะตีได้ บอลลอยไปตกหน้า
เซ็นเตอร์ ทำให้ตอนนี้รันเนอร์อยู่บนเบส 1 กับ 3 แต่ถึงจะตีได้อย่างนั้นก็ทำเอาโค้ชไรโซนั่งไม่ติด
เพราะการที่สุดยอดแบทเตอร์ของทีมทั้งสองคน (ไรจิกับซานาดะ) โดนบอลแจมเข้าใส่นี่ แสดงว่า
เป็นบอลที่ตีได้ยากมาก อีกทั้งยังเพิ่งเคยเห็น...ซาวามูระขว้างคัตเตอร์เป็นครั้งแรกด้วย

ในขณะที่มิยูกิคิดว่า ทั้งโฟร์ซึม (ขว้างใส่ไรจิ) กับคัตเตอร์นั้น ต่างก็เป็นบอลดี คมกว่าเก่า แต่เป็นเพราะ
ทั้งสองคนฝีมือดีจึงตีไปถึงเอาท์ฟิลด์ได้ นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ ไม้ต่อมาต่างหาก
ว่าจะจัดการอย่างไรดี...

ไม้ต่อมาเป็นกัปตันทีมของยาคูชิ...จบตอนแบบเห็นเค้าว่า พี่เกรียนแกใกล้จะได้ถูกเปลี่ยนตัวล่ะนะ




วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สปอยล์ขั้นรุนแรง6

อันนี้เป็นเก็บตกหลังเกมการแข่งขันนะคะ...แบบว่ามีเรื่องให้ชวนคิดน่าติดตามอยู่
เกี่ยวกับเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัวของหนุ่มมิยูกิ...

คือแบบว่าหลังจากการแข่งแล้ว ทุกคนสังเกตเห็นว่ามี ผู้สูงวัยท่านหนึ่ง มาดูการแข่งครั้งนี้
ซึ่งมารู้กันอีกทีว่าเป็น คุณปู่ของฟุรุยะ...ก็เลยคุยกันว่า คงตั้งใจมาดูหลานชายแข่ง
แต่ว่าวันนี้ดันไม่ได้ลง...แต่ก็พยายามปลอบว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะบ้านอยู่โตเกียว
ยังไงก็ได้มาดูอีก

(คุณปู่ของฟุรุยะ สมัยเรียน ม.ปลาย เคยเล่นเบสบอลและเคยไปโคชิเอ็งมาแล้ว)

พอพูดประเด็นนี้ขึ้นมา ชาวเซย์โดก็ว่า ฟุรุยะมีปู่อยู่ที่โตเกียวนี่เอง พ่อแม่ถึงให้มาเรียนที่นี่ได้
((พ่อแม่ทำงานอยู่ฮอกไกโด)) เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนปล่อยให้ลูกมาอยู่ไกล ถ้าไม่มี
คนที่ไว้ใจได้อยู่ที่นี่

ซึ่งบรรดาเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนที่เซย์โด ก็จะทำหน้าทำตาประมาณนี้ ยกเว้น...

รูปนี้...อย่าไปพูดถึงเจ้าทึ่มเลย

จะเห็นได้ว่าฉากนี้ทุกคนเป็นเด็กต่างจังหวัด ยกเว้นมิยูกิ (เป็นเด็กโตเกียวโดยกำเนิด)...ที่ไม่น่าจะโผล่มาอยู่ด้วย
แถมแววตาพี่แกยังดูหมองหม่นอีกต่างหาก เป็นประเด็นให้บรรดาแฟนคลับต่างก็สงสัยขึ้นมาว่า...
มีความเป็นไปได้ที่มิยูกิจะเป็นเด็กมีปัญหาครอบครัว...อะจ๊ากกกกส์ อันนี้เป็นแม่ยกตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
จากเบาะแสหลายประเด็นที่แทรกเข้ามาแบบเนียนๆ

เริ่มจาก สมัย ม.ต้น ((จากตอนพิเศษ...มิยูกิ คาซึยะ))
จะเห็นว่าหน้าตาของหนูน้อยมิยูกิ เต็มไปด้วยรอยแผล เนื่องจากถูกรุ่นพี่กลั่นแกล้ง แต่แทนที่จะหายหน้าไป
หรือเป็นเรื่องให้ผู้ปกครองมาฟ้องร้อง (...ไม่เกี่ยวกับข่าวฮ็อทในเวลานี้) แต่มิยูกิกลับมาซ้อมตามปกติ
ทำเอารุ่นพี่ต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน

ประเด็นที่สงสัย...โดนซะหน้าเยินขนาดนี้ ผู้ปกครองไม่สงสัยบางเหรอ ถ้าไม่เอาเรื่องก็ไม่น่าจะปล่อยมา
ซ้อมตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ

อีกทั้งเจ้าหนูมิยูกิ ยังมีความคิดที่ว่า...
 แสดงว่า...ทั้งชีวิตมีแต่เบสบอล ((ไม่สนใจสาวๆ บ้างเลย กระซิกๆๆๆ))

นอกจากแล้วยังมาจากทวิตเตอร์ของ อ.เทราจิม่า เอง ที่มีคนสงสัยถามเกี่ยวกับงานอดิเรกของมิยูกิ
จาก ไกด์บุ๊ก เล่ม 1 ที่ว่า งานอดิเรกของพ่อหนุ่มคนนี้ คือ...ทำอาหาร

ซึ่งอาจารย์ก็ได้ตอบว่า...เป็นเพราะสมัยเด็กมิยูกิต้องทำกับข้าวกินเอง 

ทำไมต้องทำกับข้าวเอง ไม่มีคนทำให้หรืออย่างไร พ่อแม่ไปไหน...ตอกย้ำประเด็นที่ว่า
พี่แกต้องเป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆ  ((นี่คือการมโนของบรรดาแฟนคลับ))

และข่าวจากทวิตเตอร์อีกเช่นกัน ที่ อ.เทราจิม่า เคยโพสไว้ว่า อาจจะได้เห็นผู้ปกครองของมิยูกิมาดู
การแข่งที่สนาม ((ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นในอะนิเมะนะ...อันนี้ไม่แน่ใจ)) ก็ต้องลุ้นกันต่อไป

cr : victoriel.tumblr.com
ส่วนนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับ DVD ((ไม่รู้ว่าเราจะได้ดูกันหรือเปล่า)) ประกาศออกมาว่า
ใน รุ่น Limited vol.44 ซึ่งจะวางจำหน่ายวันที่ 17 พ.ย. 2557 (เปิดสั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่ 30 ก.ย.)
จะมี OVA ตอนพิเศษ "Face" ของ โคมินาโตะ เรียวสุเกะ
ส่วน รุ่น Limited vol.45 จะเป็น OVA ตอนพิเศษ "Outrun" ของ คุราโมจิ โยอิจิ
และ รุ่น Limited vol.46 ก็จะมี OVA ตอนพิเศษด้วยเช่นกัน ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะเป็นเรื่องราวของใคร

แต่บรรดาแม่ยกต่างก็คิดกันไปว่า น่าจะเป็นตอนพิเศษของมิยูกิ คาซึยะ เพราะตอนนี้มีตอนพิเศษออกมา
แค่สามตอน ((ไม่นับเรื่องสั้นของไรจิ)) และในตอนนี้เราอาจจะได้เห็นครอบครัวของมิยูกิก็ได้

สรุปแล้วเก็บตก กลายเป็นประเด็กเกี่ยวกับตามิยูกิไปหรือนี่...เอิ๊กส์
เอาน่า...หนุ่ม Hot ของเรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ ที่สำคัญตอนล่าสุด ตอนที่ 390 (วันที่ 19 ก.ค.)

สถานการณ์ในรอบชิงสรุปคร่าวๆ ได้ว่า เสมอกันอยู่ 3 - 3 ตอนนี้ยาคูชิกำลังเป็นฝ่ายบุก ซึ่งรอบนี้
เริ่มจากคลีนอัพ (ไม้ 3 4 5) มิชิมะ ไรจิ ซานาดะ ตามลำดับ...ซึ่งซาวามูระสามารถทำสไตร์คเอาท์
มิชิมะไปได้สำเร็จด้วย  ลูกโฟร์ซีมวงนอก ตามมาด้วยลูกครอสไฟร์(วงใน) และปิดท้ายด้วยเชนจ์อัพ
ตกใจกันไปเป็นแถว แต่ดูหน้าเมย์จังสิ...เอิ๊กส์


ทำให้เมย์จังไฟลุกได้ขนาดนี้ แข่งฤดูร้อนคราวหน้าสนุกแน่...

พอมาถึงไม้ต่อมาซึ่งเป็นตาของไรจิ...แน่นอนถ้าทำเอาท์ได้ง่ายๆ ก็ไม่ได้ลุ้นกันน่ะสิ เอิ๊กส์
มิยูกิลูกวงในที่ซาวามูระขว้างไม่ได้ในตอนแข่งซ้อม ((ตอนที่ทำให้รู้ว่าเป็นยิปส์นั่นล่ะ)) 
เพื่อเป็นการทักทาย...แน่นอนว่าไรจิตีได้ แต่ว่าบอลลอยไปตกหน้า เลฟต์ฟิลเดอร์ (ตำแหน่งขาจรของฟุรุยะ)

ทำเอาเจ้าทึ่มซ่ากับแสบเซ่อต่างก็โมโห...แบบว่า คนหนึ่งกะหวดโฮมรัน อีกคนกะไม่ให้ตีบอลได้
มีแต่พี่ซานาดะที่แอบชมซาวามูระในใจ ที่สามารถใช้แค่ฟาสต์บอลก็ทำแจมบอลใส่ไรจิได้ แสดงว่า
ขว้างบอลได้เยี่ยม...

ซาวามูระขว้างบอลวงนอกให้มิยูกิรับ เพราะไรจิขโมยเบส แต่มิยูกิขว้างบอลพลาด...เริ่มออกอาการแล้ว
ทำให้ต้องลุ้นกันต่อไปว่า ตอนหน้า คุราโมจิจะรับบอลได้หรือเปล่า

สรุปสั้นๆ ...ทุกคน แม้แต่รุ่นพี่ปีสามที่มาดู ก็รู้กันแล้วว่า มิยูกิได้รับบาดเจ็บ แต่มีอยู่คนเดียวที่ไม่รู้
ทายสิ...ใครเอ่ย ทึ่มตลอดกาลลลลลลลลลล....

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สปอยล์รุนแรงขั้น5

การแข่งรอบสี่เซย์โดพบกับทีมโออุยะ ซึ่งเป็นทีมจากฝั่งโตเกียวตะวันออก และเป็นโรงเรียนรัฐบาล
ที่เน้นด้านวิชาการ และการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มากกว่ากิจกรรมกีฬา ผู้เล่นจึงมีเวลาฝึกซ้อมแค่หลังเลิกเรียน
อีกทั้งสนามฝึกซ้อมยังใช้ร่วมกับชมรมฟุตบอลและชมรมกรีฑาอีกต่างหาก

วาคาบายาชิ โก เอชของทีมโออุยะจึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าจะเอาชนะเซย์โด ซึ่งเป็นทีมใหญ่
ที่ทางโรงเรียนให้การสนับสนุนด้านเบสบอลโดยเฉพาะ ส่วนอารากิ อิจิโร่ โค้ชของทีมให้สัมพาษณ์กับนักข่าวไว้ว่า
ถ้าชัยชนะในการแข่งเกิดจากจำนวนเวลาที่ใช้ในการฝึกซ้อม ทีมของพวกตนคงไม่มีอะไรไปสู้ทีมอื่นได้
แต่เบสบอลไม่ใช่อย่างนั้น นั่นจึงทำให้กีฬาชนิดนี้น่าสนุกขึ้นมา

ในวันแข่งขันซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ รุ่นพี่ปีสามของเซย์โดที่เลิกเล่นไปแล้วต่างก็พากันมาเชียร์กัน
อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยในเกมนี้เซย์โดเป็นฝ่ายเล่นเกมบุกก่อน แต่ยังทำคะแนนไม่ได้ในอินนิ่งแรก
เมื่อเปลี่ยนมาเล่นเกมรับ โค้ชคาตาโอกะบอกกับซาวามูระให้การนับสไตร์คเพิ่มขึ้น
เพื่อเข้าจังหวะการเล่นของตัวเองเสียก่อน จากนั้นจะลองใช้ลูกเชนจ์อัพก็ไม่มีปัญหา

และเมื่อถึงไม้สาม นับสไตร์ค 2 บอล 1 มิยูกิจึงส่งสัญญาณขอลูกเชนจ์อัพ แต่ว่าซาวามูระเกร็งเกินไป
จึงทำให้ผลที่ได้เป็นเช่นนี้...
อับอายขายหน้าที่สุด...
หลังจากที่ทำพลาด ทำให้ซาวามูระเริ่มตั้งตัวไม่ได้ ทำให้ทั้งปล่อยวอล์ก แล้วก็ปล่อยรัน
มิยูกิจึงบอกกับซาวามูระว่า ให้ลืมลูกเชนจ์อัพนั่นไปซะ ตั้งใจขว้างบอลให้ได้เหมือนเดิมก็พอ
ทำให้จบอินนิ่งแรกโออุยะเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 2 แต้ม

ในสถานการณ์ที่ทีมตกเป็นรอง มิยูกิจึงตัดสินใจพักเรื่องการใช้ลูกเชนจ์อัพไว้ก่อน เมื่อซาวามูระกลับมา
ตั้งตัวได้อีกครั้ง ก็สามารถขว้างบอลได้เหมือนอย่างเคย และผลพลอยได้จากการฝึกขว้างลูกเชนจ์อัพ
ทำให้การจับบอลในการขว้างลูกปกติของซาวามูระดีขึ้น มูฟวิ่งบอลมีการพัฒนาขึ้น แม้แต่รุ่นพี่ปีสามที่มาเชียร์
ต่างก็คิดเหมือนกันว่า ซาวามูระสามารถควบคุมให้บอลเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการได้ ไม่ใช่มูฟวิ่งบอล
ที่เคลื่อนไหวมั่วซั่วเหมือนแต่ก่อน

และด้วยฟอร์มการขว้างบอลที่อยู่ตัว ทำให้หลังจากจบอินนิ่งแรก โออุยะไม่สามารถทำคะแนนเพิ่มได้
ในขณะที่เซย์โดสามารถทำคะแนนขึ้นนำไปได้สำเร็จ เซย์โดนำอยู่ 3 - 2

ในอินนิ่งที่หก เมื่อกัปตันซึ่งเป็นคลีนอัพของทีมโออุยะขึ้นมาตี มิยูกิคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะลองใช้ลูกเชนจ์อัพดู
แต่เพราะการทำพลาดในอินนิ่งแรก ทำให้ต้องเสียแต้มไปนั้น มิยูกิจึงขอเวลานอกและเรียกอินฟิลเดอร์
มารวมตัวกันที่เนินขว้างลูก





คลีนอัพของโออุยะสามารถตีบอลของซาวามูระได้ แต่เป็นลูกฟาวล์ไป ทางรุ่นพี่ปีสามต่างก็วิจารณ์ว่า
ถ้าซาวามูระสามารถขว้างบอลที่ทำให้แบทเตอร์กะจังหวะเวลาพลาด คงจะดีไม่น้อย ทำให้คริสนึกถึงเรื่องที่
มิยูกิชวนให้ตนมาดูการแข่งครั้งนี้ เพราะมีบางอย่างที่ตัวเขากับซาวามูระอยากจะใช้ในการแข่งครั้งนี้
และถ้าซาวามูระทำได้ ก็จะทำให้เขาเป็นพิทเชอร์ที่มีความสามารถเท่าเทียมกับฟุรุยะขึ้นมาทันที

ในที่สุดมิยูกิก็ตัดสินใจส่งสัญญาณขอเชนจ์อัพ ซึ่งโค้ชโอจิไอที่ดูอยู่คิดว่า ถ้าหากซาวามูระสามารถทำได้
เขาจะกลายเป็นพิทเชอร์ที่สามารถไว้ใจได้ขึ้นมาทันที และผลที่ได้ก็คือ



หลังจากนั้นแบทเตอร์ของโออุยะต่างก็กังวลกับลูกเชนจ์อัพ ทำให้ซาวมมูระสามารถทำเอาท์ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
จบอินนิ่งนี้ไปเซย์โดจึงยังเป็นฝ่ายนำอยู่ ผู้เล่นของโออุยะต่างพากันวิตก แต่วาคาบายาชิที่นึกถึงอินนิ่งแรก
ที่ซาวามูระเล่นพลาด จึงคิดว่าเชนจ์อัพ เป็นแค่ลูกฟลุ๊กเท่านั้น ซึ่งโค้ชอารากิก็คิดเช่นเดียวกัน
วาคาบายาชิบอกกับทุกคนว่ายังเหลืออีกสามอินนิ่งที่สามารถพลิกเกมกลับมาได้ แล้วก็สามารถเอาท์แบทเตอร์
ของเซย์โดไปได้ด้วยการขว้างอันทรงพลัง

เมื่อเปลี่ยนมาเล่นเกมรับ ซาวามูระสามารถเอาท์ไม้แรกไปได้โดยไม่ได้ใช้ลูกเชนจ์อัพ จึงทำให้ไม้ต่อมาคิดว่า
วาคาบายาชิพูดถูก เชนจ์อัพก่อนหน้านั้นเป็นแค่ลูกฟลุ๊กเท่านั้น จึงตั้งใจจะตีฟาสต์บอลเต็มที่ แต่ซาวามูระ
ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เชนจ์อัพที่ขว้างได้นั้น ไม่ใช่ลูกฟลุ๊กอย่างแน่นอน

จากนั้นด้วยมูฟวิ่งบอลของซาวามูระและการขอบอลอันยอดเยี่ยมของมิยูกิ ทำให้ซาวามูระสามารถทำสไตร์คเอาท์
แบทเตอร์สามคนติดกันได้ ปิดอินนิ่งนี้ไปอย่างสวยงาม
เมื่อขึ้นอินนิ่งใหม่เซย์โดเป็นฝ่ายบุก ฮารุอิจิก็สามารถตีโฮมรันได้ ลบคำสบประมาทของโค้ชโอจิไอที่เคยว่าไว้
ก่อนการแข่ง ที่บอกว่า ฮารุอิจิไม่สามารถกดดันหรือทำให้คู่แข่งกลัวได้ ทำให้โค้ขโอจิไอเริ่มเปลี่ยนความคิด

ในขณะที่โค้ชของทีมเซนเซนที่ดูอยู่บนอัฒจรรย์เพื่อรอแข่งในคู่ต่อไป ถึงกับเอ่ยปากชมโค้ชคาตาโอกะที่สามารถ
ทำทีมให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้ในช่วงการแข่งภาคฤดูใบไม้ร่วง เช่นเดียวกับทีมเซย์โดชุดก่อน และบอกว่า
เซย์โดโชคดีที่มีผู้เล่นอย่างซาวามูระเป็นคนจุดประกายไฟให้กับผู้เล่นคนอื่นพัฒนาฝีมือขึ้นมา

จบการแข่งขันเซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 6 - 2 และซาวามูระได้ลงเล่นตั้งแต่ต้นจนจบ