วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

สปอยล์ เล่ม 2

 
 
 
 




ตอนที่ 6 เลิกเป็นพิทเชอร์ซะ

ซาวามูระเสียใจนอนร้องไห้ไม่เลิก เพราะไม่สามารถขว้างลูกไปถึงรั้วได้ ทำให้ยังไม่ได้รับการยอมรับ
ให้เข้าทีมจากโค้ช แต่ด้วยคำพูดของคุราโมจิทำให้เขาคิดได้ และเริ่มต้นฝึกซ้อมด้วยตัวเอง
ส่วนทางด้านเรย์ก็พยายามเกลี้ยกล่มโค้ชให้เปลี่ยนใจ โค้ชคาตาโอกะไม่ตอบ ในขณะนั้นเองที่ทั้งสองหัน
ไปมองเห็น ซาวามูระกำลังตั้งหน้าตั้งตาซ้อมวิ่งอยู่ โค้ชจึงเอ่ยปากว่า
ลูกโค้งอย่างนั้น ขว้างยังไงก็ไปไม่ถึงรั้ว เรย์จึงเข้าใจความหมาย
 

ตอนที่ 7 รอฉันก่อนนะ

ซาวามูระถูกเพื่อนร่วมชั้นหัวเราะเยาะ เมื่อเขาประกาศว่า จะเป็นเอชชองทีมให้ได้
มีเพียง โยชิคาวะ ฮารุโนะ ผู้จัดการทีมเบสบอล เพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกประทับการกระทำของซาวามูระ
ที่จริงแล้วฮารุโนะ กำลังสับสนอยู่เพราะความซุ่มซามของตัวเอง จึงทำอะไรไม่ได้เรื่องและถูกรุ่นพี่โมโหประจำ
แต่เทียบกับซาวามูระที่ถูกหัวเราะเยาะ และยังไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าทีม แต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาซ้อมคนเดียว
จึงทำให้เธอกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง ในเวลาเดียวกันนั้นแม้ทีมเบสบอลจะมีแข่ง แต่ซาวามูระปฏิเสธไม่ไปดูการแข่ง
สักครั้ง เพราะต้องการใช้เวลาฝึกซ้อมด้วยตัวเองให้เก่งขึ้น
 

ตอนที่ 8 พวกเดียวกันใช่ไหม

ในการแข่งขันด้วยการเล่นอย่างยอดเยี่ยมของมิยูกิ และแบทเตอร์ไลน์อัพที่ระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม
ทำให้ทีมเบสบอลเซย์โดปีนี้ ยังเป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งอยู่ เพียงแต่ปัญหาเดิมที่คนภายนอกมองก็คือ
ทีมยังขาดเอช ทำให้เกมรับยังไม่แข็งพอ

ทางด้านซาวามูระที่อยู่ซ้อมคนเดียวที่โรงเรียนนั้น เขาก็ได้พบกับ ซาโตรุ ฟุรุยะ เด็กปีหนึ่งเหมือนตัวเอง
ที่พลาดรถบัสทำให้ต้องอยู่ที่โรงเรียน แต่ฟุรุยะได้บอกว่า ไม่ได้สนใจการแข่งที่ตัวเองไม่ได้ลงเล่นด้วย
และยังบอกว่าที่ซาวามูระยังอยู่ที่นี่คงเป็นพวกเดียวกันกับตัวเอง

 





ตอนที่ 9 ช่วงเวลาเจ็บใจ

เพราะฟอร์มการเล่นที่แย่ลงของ โคอิจิโร ทันบะ พิทเชอร์ปี 3 เอชของทีม โค้ชจึงปลดออกจากทีมตัวจริง
เช่นเดียวกันมัตสึโกะ ที่ถูกปลดไปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการกระตุ้นผู้เล่นให้มีความกระตือรือร้นมากกว่านี้
โค้ชคาตาโอกะจึงให้มีการแข่งระหว่างปี 1 กับปี 2-3 เพื่อดึงผู้เล่นเข้าเสริมทีตัวจริง
 
ฟุรุยะที่มาเข้าเรียนที่เซย์โดเพราะคิดว่า มีเพียงมิยูกิเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรับลูกของตนได้
ได้ประกาศกลางโรงอาหารว่า ในการแข่งที่จะมีขึ้นนี้ เขาจะไม่ให้ใครตีลูกที่ตัวเองขว้างได้อย่างเด็ดขาด
เพื่อให้มิยูกิยอมรับ สร้างความไม่พอใจให้กับรุ่นพี่เป็นอย่างมาก
 
ซาวามูระรู้เจ็บใจที่ตัวเองไม่รู้เรื่อง และระบายอารมณ์ตอนอาบน้ำ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่โค้ชคาตาโอกะกำลัง
แช่อ่างอาบน้ำอยู่ โค้ชจึงได้ถามเรื่องที่เขาไม่ยอมไปดูการแข่งของทีม และคำตอบที่ได้ ทำให้โค้ช
ให้โอกาสซาวามูระอีกครั้ง
 

ตอนที่ 10 การแข่งขันอันดุเดือด

คำพูดของฟุรุยะที่ว่าจะไม่ให้ใครตีลูกได้นั้น สร้างความไม่พอใจให้กับพวกรุ่นพี่เป็นอย่างมาก
พวกรุ่นพี่จึงตั้งใจเล่นกันอย่างเต็มที่เพื่อสั่งสอน โดยเฉพาะทันบะ เอชของทีมที่เพิ่งถูกถอดออกจามทีมตัวจริง
ขว้างลูกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ปีหนึ่งไม่สามารถทำคะแนนได้และถอดใจในการแข่งครั้งนี้
 
มีเพียงซาวามูระเท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เล่นเบสบอลจริงๆ เสียที โดยมีมิยูกิที่มาดูการเล่นช่วยซ้อมให้
 

ตอนที่ 11 ศักดิ์ศรีของนักเรียนปี 3

ในขณะที่ปีหนึ่งกำลังถอดใจอยู่นัั้น ซาวามูระเท่านั้นที่ยังไม่หมดหวัง แถมยังบอกว่าที่มาเข้าเซย์โด
ก็เพราะว่าอยากจะเผชิญหน้ากับคนเก่งๆ โค้ชจึงอนุญาตให้ซาวามูระลงเล่นในตำแหน่งไรท์ฟิลด์
และเปลี่ยนให้ฟุรุยะได้ลงในตำแหน่งพิทเชอร์
 

ตอนที่ 12 ยังไม่จบ

ฟุรุยะขว้างลูกแรกก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน โค้ชจึงประกาศให้เขาได้เลื่อนขึ้นไปเล่นในทีมตัวจริง
พร้อมกับทันบะ และตั้งใจจะให้แข่งอินนิ่งนี้เป็นอินนิ่งสุดท้าย เมื่อซาวามูระได้มีโอกาสเป็นคนตี แต่ว่ามีเสียง
ตะโกนออกมาจากที่ม้านั่งของฝั่งปีหนึ่งว่า ให้วิ่งเพราะแคทเชอร์รับลูกไม่ได้ ทำให้เขาสามารถวิ่งไปยืนที่
เบสหนึ่งได้สำเร็จ
 

ตอนที่ 13 ฉันนี่แหละ พินช์ฮิตเตอร์

คนที่ตะโกนบอกซาวามูระก็คือ ฮารุอิจิ โคมินาโตะ น้องชายของ เรียวสุเกะ โคมินาโตะ ผู้เล่นทีมตัวจริง
พร้อมกับตะโกนเปลี่ยนตัวคนตี โดยเขาจะเป็นคนตีในรอบนี้เอง พร้อมกับตะโกนบอกว่า จะตีให้ซาวามูระ
ได้วิ่งกลับมาจุดโฮม
 
 

 
 
++++++++++++++++
จบเล่ม 2
 
 
 
 

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

สปอยล์ เล่ม 1

 


ตอนที่ 1 ลูกขว้างแห่งโชคชะตา


ในการแข่งขันเบสบอลระดับ ม.ต้น ร.ร.มัธยมต้นอาคางิ แพ้ให้กับ ร.ร.มัธยมต้นนารุชิม่า
เอย์จุน ซาวามูระ พิชเชอร์ของทีมรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถพาทีม ไปสู่ระดับประเทศได้
สร้างความขบขันให้กับทีมนารุชิม่าไม่น้อย ซาวามูระโมโหถึงขั้นลงไม้ลงมือกับอีกฝ่าย

ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ เรย์ ทาคาชิม่า ผู้ช่วยโค้ชและแมวมองของ ร.ร.มัธยมปลายเซย์โด
ได้เห็นลูกขว้าง ลูกสุดท้ายของซาวามูระ แม้ว่าแคชเชอร์จะรับลูกนั้นไม่ได้ก็ตาม
เธอได้ติดต่อทาบทามให้ซาวามูระเข้าไปเรียนต่อ ม.ปลายที่เซย์โด ซึ่งเป็น
ร.ร.ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านเบสบอลของโตเกียว แต่ซาวามูระปฏิเสธ
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือ การได้เล่นเบสบอลกับเพื่อนๆ

เรย์ไม่ยอมแพ้ จึงได้โน้มน้าวให้ซาวามูระมาดูสถานที่ฝึกซ้อมเบสบอล
ของ ร.ร.ที่โตเกียวเสียก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ เพราะทนแรงชักจูงไม่ไหว
ซาวามูระจึงได้ตัดสินใปตามคำเชิญ

เขาได้พบผู้เล่นกำลังฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น และอุปกรณ์ฝึกซ้อมต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตัวเองไม่น้อย แต่ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่สนใจ

ขณะนั้นเองในสนามฝึกซ้อม คิโยคุมิ อาซูมะ ซึ่งเรียนจบแล้วและกำลังจะเป็น
นักเบสบอลมืออาชีพ กำลังฝึกตีลูกและได้พูดจาดูถูกพิชเชอร์ที่เป็นคู่ซ้อมให้อยู่
ซาวามูระโมโหจึงได้พูดดูถูกรูปร่างของอาซูมะว่าอ้วนเกินกว่าจะเทิร์นโปรได้
ทำให้อาซูมะโกรธไม่น้อยเพราะเจ้าตัวกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่

เรย์ซึ่งอยากจะลดความผยองของอาซูมะ และอยากให้ซาวามูระได้สัมผัสบรรยากาศการเล่น
เบสบอลของโรงเรียน จึงหาทางออกโดยการให้อาซูมะแข่งกับซาวามูระ
โดยมี คาซูยะ มิยูกิ รับอาสาเป็นแคชเชอร์ให้เพราะถูกใจความกล้าบ้าบิ่น
ของซาวามูระเข้า

ซึ่งเรย์ได้บอกกับมิยูกิว่า ลูกขว้างของซาวามูระนั้นมีลักษณะพิเศษ ถ้าเป็นมิยูกิ
คงสามารถดึงความสามารถที่แท้จริงของซาวามูระออกมาได้



 
 


ตอนที่ 2 คู่หู


เมื่อได้เผชิญหน้าอาซูมะ ความรู้สึกกดดันทำให้ซาวามูระขว้างลูกลงพื้น
ทำให้มิยูกิรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะเขาดูออกว่าซาวามูระเปลี่ยนทิศทางก่อน
ปล่อยบอลออกจากมือ จึงขอเวลานอกเพื่อสอบถาม และได้รู้ว่า
ซาวามูระขว้างลูกออกไปตามสัญชาตญาณ รวมไปถึงเรื่องที่ซาวามูระบอกว่า
ขว้างเป็นแต่ลูกฟาสท์บอล (Fast ball) เท่านั้น ยิ่งทำให้มิยูกิชอบอกชอบใจมากยิ่งกว่าเดิม

มิยูกิบอกว่า พิชเชอร์กับแคชเชอร์ คือคู่หูในการเล่นเบสบอล ให้ซาวามูระเชื่อใจ
ในการชี้นำของเขา และเชื่อมั่นในถุงมือของแคชเชอร์ว่า
สามารถรับทุกลูกที่พิชเชอร์ขว้างมาได้

ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ซาวามูระได้ยินเรื่องแบบนี้ แต่เขาก็เชื่อในสิ่งที่มิยูกิบอก
และขว้างลูกตามที่มิยูกิแนะนำ อาซูมะแม้ว่าจะตีลูกได้ แต่ก็เป็นลูกฟาวล์
จึงทำให้ซาวามูระเชื่อใจมิยูกิยิ่งขึ้น และเขาก็สามารถทำสไตร์ท เอ๊าท์อาซูมะได้สำเร็จ

 
 



ตอนที่ 3 วันเดินทาง


หลังจากกลับมาจากโตเกียว ซาวามูระก็รู้สึกสับสนไม่น้อย
ยิ่งได้เห็นบทความในนิตยสารที่ยกย่องให้มิยูกิเป็นแคชเชอร์อัจฉริยะด้วยแล้ว
ก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะรู้ว่า ถ้าได้จับคู่เล่นด้วยกันแล้ว เขาจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน
แต่ความรู้สึกอีกส่วนหนึ่งกลับคัดค้าน เพราะถ้าทำอย่างนั้นแล้ว
ก็หมายความว่าเขาจะต้องไปเรียนที่โตเกียว ทิ้งเพื่อนฝูงที่นี่ไป
ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการทรยศเพื่อน

แต่เมื่อเพื่อนๆ รู้เรื่องที่เขาได้รับการทาบทามจาก ร.ร.เซย์โด ทุกคนก็สนับสนุน
ให้เขาไปเรียนที่นั่น โดยให้เหตุผลว่า ด้วยผลการเรียนของซาวามูระตอนนี้
คงไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียน ม.ปลายที่ไหนได้

ซาวามูระจึงได้ตัดสินใจตอบรับคำเชิญ เข้าเรียนที่เซย์โด เมื่อวันเดินทางมาถึง
เพื่อนๆ ได้มาส่งที่สถานีรถไฟต่างก็อวยพรให้เขาโชคดี
ทุกคนเชื่อมั่นว่าเขาต้องทำได้สำเร็จแน่ เพราะซาวามูระคือฮีโร่ของทุกคน

แต่ก่อนที่ประตูรถไฟจะปิด เพื่อนๆ กับบอกว่า อยากจะเล่นเบสบอลกับเขา ซึ่งนั่นก็สายไปแล้ว
สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงเดินหน้าต่อไป และพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้สำเร็จเท่านั้น


ตอนที่ 4 อวดดีนักเหรอ


ซาวามูระได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรูมเมทซึ่งเป็นรุ่นพี่ปี 2 และปี 3 คือ
โยอิจิ คุราโมจิ และโทโอรุ มัตสึโกะ ซึ่งคุราโมจิบอกว่า เพราะมัตสึโกะเล่นพลาด
ในการแข่งครั้งล่าสุด จึงถูกถอดออกจากทีมตัวจริง เขาจึงลงโทษตัวเองโดยการไม่พูดกับใคร
และทั้งสองก็ได้ชวนซาวามูระเล่นวีดีโอเกมเป็นการต้อนรับน้องใหม่

ทำให้เช้าวันต่อมาซาวามูระตื่นสาย ไปรายงานตัวในการฝึกซ้อมวันแรกไม่ทัน
ขณะที่กำลังกระวนกระวายใจอยู่นั้น เขาก็ได้พบกับมิยูกิซึ่งมาสายเหมือนกันโดยบังเอิญ
มิยูกิแนะวิธีให้ซาวามูระเข้าไปต่อแถวโดยไม่ให้ใครรู้ ด้วยความประทับใจจากการเจอกันครั้งแรก
ทำให้ซาวามูระเชื่อใจและทำตาม โดยที่ไม่รู้ว่ามิยูกิใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ

ซาวามูระถูก เท็ตสึซิน คาตาโอกะ หัวหน้าโค้ชจับได้จึงถูกทำโทษให้ไปวิ่งรอบสนาม
พร้อมกับรุ่นพี่ที่เป็นรูมเมทและมิยูกิที่ส่งเสียงรบกวนขณะคนอื่นรายงานตัว

 




ตอนที่ 5 มีความสามารถอะไร งัดออกมาโชว์สิ


เพราะการมาสายทำให้ซาวามูระไม่ได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของทีม ทำให้เขาโมโห
ตะโกนใส่หน้าโค้ชว่า เขามาที่นี่เพื่อเป็นเอชของทีม และจะไม่ยอมแพ้ใครทั้งนั้น

คาตาโอกะได้ยินจึงขว้างลูกไปที่รั้วสนามและบอกว่า ถ้าซาวามูระสามารถขว้างไปถึงรั้วนั้นได้
จะยอมรับในความสามารถ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้เลิกเป็นพิชเชอร์ไปซะ

ซาวามูระดีใจที่ได้รับบททดสอบง่ายดายอย่างนี้ จึงรับคำท้า และขว้างลูกออกไปด้วยความมั่นใจ


+++++++++
จบเล่ม 1 แต่เพียงเท่านี้ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

ยินดีต้อนรับสู่รั้วเซย์โด

 
 

เนื่องจากว่าเจ้าของบล็อกกำลังบ้าเรื่อง Daiya no A หรือ Diamond no Ace
หรือ Ace of Diamond ชื่อภาษาอังกฤษเยอะมาก เชิญเลือกใช้ได้ตามอัธยาศัยจ้า....


สำหรับเรื่องนี้นั้นเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับเบสบอล อ่านแล้วได้อารมณ์เดียวกับ
The prince of Tennis (แต่ว่าไม่ได้เวอร์ขนาดตบลูกจนสนามพังขนาดนั้น)
เป็นการ์ตูนที่ยังอิงความเป็นจริงอยู่มาก


และเนื่องจากเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับกีฬาเบสบอล ซึ่งยังไม่ได้นิยมแพร่หลายในไทย
ดังนั้นเรื่องนี้จึงยังไม่มี สนพ.ไหนซื้อลิขสิทธิ์มาแปล นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างมาก
สำหรับคอการ์ตูนที่ชื่นชอบการ์ตูนแนวกีฬา (ย้ำกีฬาเน้นๆๆ กีฬาจริงๆๆๆ ไม่มีเรื่องรักๆๆ
เข้ามาเกี่ยว หรืออาจจะมีในอนาคต...ก็ไม่รู้ แต่ปัจจุบันถึงเล่ม 39 ยังไม่มีแวว)


สำหรับแฟนการ์ตูนชาวไทย ส่วนใหญ่คงผ่านตามกับเรื่องนี้ ผ่านทางเวอร์ชั่นอะนิเมะ
มากกว่าเวอร์ชั่นมังงะ เจ้าของบล็อกซึ่งอยู่ในโหมดบ้าเรื่องนี้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นการดี
ถ้าได้แบ่งปันเรื่องราวและพูดคุยกันบ้าง จึงได้สร้างบล็อกนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ


เพื่อสปอยล์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ