ตอนแรกก็กะจะพูดแต่การแข่ง แต่เจอความน่ารักของรุ่นพี่ปีสามเข้าไป กรี๊ดดดดดดด...เป็นอันสลบ
อีกทั้งเซย์โดกับยาคูชิต่างก็เป็นทีมในดวงใจทั้งคู่ ก๊ากกกกก...เกริ่นๆๆ ถึงคืนก่อนแข่งนิดหน่อยก็แล้วกัน
หลังจากจบการแข่งรอบรองฯ และรู้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ในชิงฯ จะเป็นการพบกันเป็นครั้งที่สาม
ระหว่างเซย์โดกับยาคูชิ ซึ่งในสายตาของคนภายนอกยังไม่มีใครบอกได้ว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายชนะ
เพราะจากสถิติเจอกันสองครั้ง ต่างก็ผลัดกันแพ้หนึ่ง ชนะหนึ่ง
เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนซาวามูระก็บอกกับมิยูกิว่าอยากฝึกขว้างลูกทูซีม (2-seam) ซึ่งเป็นไม้ตายใหม่
ของซานาดะที่ใช้สู้กับอิจิไดซัง แต่โดนคุราโมจิกระแหนะกระแหนเข้าให้
แอบปลื้มพี่ซานาดะซะขนาดนี้ ทำไม๊...ทำไม เอาก๊อปสกิลตีบอลมาล่ะ เจ้าทึ่ม |
พี่เกรียนเริ่มออกอาการแล้ว |
และก็เป็นคุราโมจิเจ้าเก่าที่สังเกตเห็น |
แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่จากประสบการณ์ที่ตัวเองรู้อาการบาดเจ็บของเรียวสุเกะก่อนนัดชิงฯ
ในหน้าร้อนที่ผ่านมา แล้วเก็บเงียบไว้คนเดียว ไม่ได้เป็นความคิดที่ดีเท่าไร
มาครั้งนี้เมื่อสงสัยว่ามิยูกิจะได้รับบาดเจ็บจากการแข่งวันนี้จึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับชิราสุ เพราะรู้ดีว่า
ถ้าบอกเรื่องนี้กับโซโนะ (ซึ่งเป็นรองกัปตันอีกคน) โซโนะคงเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่อยู่ และบอกว่าจากนี้ไป
จะคอยจับตาดูมิยูกิอย่างใกล้ชิด ถ้าเห็นอาการไม่ดีก็ขอให้ชิราสุช่วยตนรั้งมิยูกิเอาไว้ด้วย
โค้ชคาตาโอกะเรียกผู้เล่นทุกคนมารวมตัวกันในโรงฝึกในร่วม เพื่อสรุปแผนการเล่นในวันพรุ่งนี้
โดยให้คาวากามิลงเป็นสตาร์ทเตอร์ ซาวามูระเป็นรีรีฟ ส่วนฟุรุยะนั้นต้องรอคำรับรองแพทย์เสียก่อน
โอจิไอคิดว่า เซย์โดเจอปัญหาใหญ่แน่นอนถ้าฟุรุยะไม่ได้ลงเล่น เพราะในการแข่งซ้อมในหน้าร้อนที่ผ่านมา
มีฟุรุยะคนเดียวเท่านั้นที่เอาแบทเตอร์ไลน์อัพของยาคูชิอยู่
หลังจากประชุมเสร็จสมาชิกเกือบทุกคน รวมถึงรุ่นพี่ปีสามต่างก็มารวมตัวกันในห้องกินข้าว
เพื่อพูดคุยถึงการแข่งในวันนี้และการแข่งที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
รุ่นพี่มาช่วยวางแผน(ร้าย)กันแบบนี้...รุ่นน้องที่ดีก็ต้องทำตาม |
ส่วนทางด้านยาคูชิรุ่นพี่ปีสามก็รวมตัวกันมาหาที่สนามฝึกซ้อม...ทีมนี้เขาอยู่กันแบบเฮฮา
จากนั้นโค้ชไรโซก็ให้ลูกทีมของตน พูดระบายความรู้สึกของตนออกมา และในตอนนี้เองที่ทุกคนได้รู้
เหตุผลในการเลือกกัปตันทีมของโค้ช...ฮา ถึงซานาดะจะเป็นคนไปจับฉลากตอนแบ่งสาย แต่ก็ไม่ใช่
กัปตันทีมนะจ้ะ
เมื่อทุกคนออกมาพูดกันหมดแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยเจ้าหนูไรจิ ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรก...อย่างกับตัวร้าย
แต่ไหงลงท้ายเป็นเจ้าจ๋อไปได้ก็ไม่รู้ และด้วยขี้อายพอๆ กับฮารุจจิ ทักษะการเข้าสังคมติดลบพอๆ กับฟุรุยะ
พอถึงตาต้องพูดความรู้สึก ก็เลยออกอาการอย่างนี้
เอ่อ...เรื่องนี้ ป้อไม่ได้ฉอนนนครับ |
เขาไม่คิดจะให้ฟุรุยะลงเล่นในนัดชิง ซึ่งโอจิไอค่อนข้างจะเห็นด้วย เพราะไม่อยากให้อาการบาดเจ็บของ
ฟุรุยะหนักไปกว่านี้ ก็เพื่อประโยชน์ในการทำทีมของตนในหน้าร้อนที่จะถึง
ในขณะที่คนอื่นเริ่มออกอาการวิตก เพราะไม่แน่ใจว่าพิทเชอร์ที่เหลือจะสามารถต้านการบุกของยาคูชิได้
นานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นคาวากามิที่ยังขาดความมั่นใจ และซาวามูระที่ไม่สามารถเอาชนะไรจิของยาคูชิได้เลยสักครั้ง
ทางด้านผู้เล่นต่างก็แยกย้ายกันไปฝึกกันต่อในโรงฝึกในร่ม เหลือเพียงบรรดาพิทเชอร์กับแคทเชอร์ของทีม
ที่ยังประชุมเครียดกันอยู่ โดยที่มิยูกิให้ทุกคนจำของมูลของทีมคู่แข่งให้ขึ้นใจ และให้คิดเองว่าจะทำอย่างไร
ถึงจะจัดการกับฝ่ายตรงข้ามได้ หลังจากนั้นก็ไปต่อที่โรงฝึกในร่ม เพื่อลองลูกทูซีมที่ซาวามูระอยากฝึก
ซึ่งมิยูกิให้โอโนะเป็นแคทเชอร์ โดยออกตัวว่าขอดูอยู่ข้างๆ
การมาเจอบรรดารุ่นพี่ที่คุ้นหน้าคุ้นตา ทำให้เจ้าซาวามูระออกอาการดี้ด้าเป็นพิเศษ แถมยังตั้งชื่อใหม่
ให้กับบรรดารุ่นพี่ซะอีก
มัตสึโกะ น่าสงสารที่สุดดดดดด เคยเป็นรูมเมทกันแท้ๆ เจ้าทึ่มกลับจำไม่ได้ |
การปรากฎตัวของโค้ชไม่ได้ทำให้เจ้าซาวามูระสำนึกสักนิดว่า พรุ่งนี้จะมีแข่งสมควรจะไปพักได้แล้ว
โค้ชก็เลยยอมให้อยู่ซ้อมขว้างบอลต่อ โดยมีโอโนะเป็นแคทเชอร์ ส่วนมิยูกิยืนอยู่ข้างๆ คอยขอบอล
ในขณะที่บรรดารุ่นพี่ต่างวิจารณ์การขว้างบอลของซาวามูระกันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่คริสคอย
ช่วยให้คำแนะนำในการรับบอลกับโอโนะ
จะต้องขว้างบอลแบบไหนถึงจะสามารถทำสไตรค์เอาท์ไรจิได้ โค้ชคาตาโอกะที่คอยดูอยู่จึงนึกถึงเรื่อง
ที่คริสเคยพูดไว้ว่า ลูกพุ่งตรงของซาวามูระเป็นเบรกบอลที่ลอยไปได้ทุกทิศทาง โค้ชจึงบอกให้มิยูกิปิดท้าย
ด้วยการขว้างลูกฟาสต์บอลพุ่งตรง ซึ่งมิยูกิก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ โอโนะจึงบอกให้มิยูกิเป็นคนมารับบอลแทนตน
โดยมีคุราโมจิกับชิราสุคอยจับตามองอยู่
มิยูกิบอกให้ซาวามูระขว้างลูกฟาสต์บอลพุ่งตรงที่บรรจงใส่สปินลงไปในบอล ซึ่งซาวามูระไม่เข้าใจเรื่องดังกล่าว
แต่เมื่อได้ยินคำแนะนำของโค้ชคาตาโอกะก็ทำให้เขานึกถึงตอนอยู่ ม.ต้นและตอนที่เข้าเซย์โดใหม่ๆ
ที่ทั้งเพื่อนร่วมทีมสมัย ม.ต้น ต่างก็บอกว่าบอลของเขารับยาก เพราะไม่รู้ว่าบอลจะลอยมาทางไหน
รวมถึงฟุรุยะที่บ่นว่า เขาขว้างบอลได้ทุเรศมาก จากที่เซ็งๆ อยู่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เพราะการได้กลับไปขว้างบอลแบบเดิมของตัวเอง จะทำให้รู้ว่าตัวเขาในตอนนี้พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้แค่ไหนแล้ว
เพิ่งจะขว้างลูกพุ่งตรงได้ก็ตอนที่รุ่นพี่คริสสอนขว้างโฟร์ซีม...
สรุปแล้วคืนนี้ปิดท้ายการฝึกด้วยลูกฟาสต์บอลพุ่งตรงธรรมด้า ธรรมดา...ที่กลายมาเป็นอาวุธชิ้นใหม่
ของเจ้าทึ่มที่ใช้ต่อกรกับยาคูชิล่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งชอบเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนดูเป็นมนุษย์มนา เป็นเด็กมัธยมปลาย ไม่เก่งเว่อเกิน
ตอบลบขอบคุณเจ้าของบล็อก อีกครั้ง เป็นบล็อกในใจเราเลยล่ะ ต้องแวะเข้ามาทุกวัน ไม่งั้นนอนไม่หลับ..อิ อิ