วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สปอยล์ขั้นรุนแรง4

มาอัพต่อ...พร้อมกับอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบัน ตอนที่ 387
ตอนนี้เซย์โดกับยาคูชิคะแนนเสมอกันอยู่ 3 - 3 ซานาดะเปลี่ยนมาเป็นพิทเชอร์แทนไรจิแล้ว
เซย์โดกำลังเล่นเกมรุกอยู่ 2 เอาท์ เบสโหลด...แบทเตอร์ไม้เจ็ด (ซาวามูระไม้แปด)
และไม้เจ็ดตีบอลไปทางไรจิที่อยู่เบสสาม...ลุ้นตอนหน้าว่าไรจิจะรับบอลได้หรือไม่

+++++++

ตอนแรกกะจะสปอยล์เฉพาะเกมการแข่งขัน แต่บังเอิญว่า...ก่อนแข่งรอบสี่นี่
เจอความน่ารักและน่าถีบของเจ้าซาวามูระมากเกินไป
เรียกได้ว่า ก่อนและการแข่งรอบที่สี่นี่เป็นตอนของเจ้าซาวามูระจริงๆ
ทั้งเทพ ทั้งทึ่ม แยกกันไม่ออกจริงๆ เป็นคนที่ไม่มีใครสามารถเดาทางออกได้
เหมือนที่มิยูกิเคยว่าไว้...มันสนุกตรงที่ ไม่รู้ว่าต่อไปเจ้าทึ่มนั่นจะทำอะไร

พูดไม่ดูหน้าเพื่อนเลยยยยยยย...เจ้าทึ่ม

โค้ชคาตาโอกะให้ซาวามูระเป็นสตาร์ทเตอร์ในการแข่งรอบที่สี่ เพราะฟุรุยะได้รับบาดเจ็บทำให้ลงแข่งไมได้
ทำให้คาวากามิที่เป็นคนขาดความมั่นใจอยู่แล้ว ยิ่งกำลังใจหดหายไปกันใหญ่ มิยูกิพยายามปลอบว่า
โค้ชคงเห็นว่าซาวามูระจะเล่นได้ดีถ้ายังมีคาวากามิคอยเป็นแบล็กให้อยู่

การที่ซาวามูระได้ลงเป็นสตาร์ทเตอร์ครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน 
และไม่รู้ว่าโค้ชคาตาโอกะกำลังคิดอะไรอยู่ โดยเฉพาะโค้ชโอชิไอที่แต่เดิมคิดจะตัดซาวามูระออกจากทีม
แต่ในการรอบที่ผ่านมาทำให้ต้องมองซาวามูระใหม่ แต่ก็ยังคิดว่าเขายังไม่เหมาะที่จะลงเป็นสตาร์ทเตอร์

โค้ชโอจิไอคอยจับตาดูการฝึกซ้อมของทีมเซย์โดอยู่เงียบๆ (...ซะเมื่อไร) เมื่อเห็นฮารุจจิซ้อมตีบอลคนเดียว
ก็บอกว่า...ฮารุจจิไม่มีทางกดดันหรือทำให้คู่แข่งกลัวได้หรอก ถ้ายังใช้ไม้แบบหัวไม้อยู่ 
อีกทั้งยังดักเจอมิยูกิ เพราะอยากรู้ว่ามิยูกิคิดอย่างไรที่ซาวามูระได้เป็นสตาร์ทเตอร์ 
ในจังหวะที่มิยูกิกำลังพูดถึงเรื่องบอลของซาวามูระกับนาเบะระหว่างทางกลับหอ  
และไล่ต้อนจนมิยูกิเริ่มพูดไม่ออก แต่เสียงโวกเวกของเจ้าซาวามูระที่ดังมาจากโรงยิมขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

ซึ่งซาวามูระกำลังขอให้คาเนมารุ โทโจ และคาริบะ ช่วยบอกจุดอ่อนของตัวเอง เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการเล่น
ให้ดียิ่งขึ้น มิยูกิจึงเข้ามาห้ามเพื่อไม่ให้ซาวามูระทำลายฟอร์มการเล่นเดิมที่มีอยู่ตอนนี้ 
แต่โค้ชโอจิไอกลับใช้จังหวะนี้บอกข้อบกพร่อง และแนะนำว่าสิ่งที่ซาวามูระควรจะฝึกให้ได้ก็คือ ลูกเชนจ์อัพ


แม้มิยูกิจะไม่เห็นด้วยกับโค้ชโอจิไอที่จะสอนขว้างลูกเชนจ์อัพให้ซาวามูระก่อนการแข่งที่จะมีขึ้นในไม่ช้านี้
แต่เพราะรู้นิสัยของซาวามูระดีจะยอมอยู่เป็นคู่ซ้อมให้ เผื่อเห็นท่าไม่ดีจะได้บอกให้หยุดฝึกได้
โค้ชโอจิไอสอนวิธีการจับบอล 3 แบบในการขว้างลูกเชนจ์อัพ ให้ซาวามูระลองฝึกขว้างโดยการเริ่มจาก
การเล่นแคชบอลก่อน เมื่อคล่องแล้วค่อยหัดฝึกขว้างบอลให้ต่ำลง
วิธีการจับบอลแบบต่างๆ ของเชนจ์อัพ


เพราะเกร็งเกินไปทำให้ซาวามูระขว้างไม่ได้ มิยูกิจึงให้โทโจซึ่งเคยเป็นพิทเชอร์มาก่อน แต่เปลี่ยนไปเล่นเซ็นเตอร์
มาสาธิตวิธีการขว้างให้ดู ซึ่งโทโจก็ขว้างได้ คาเนมารุจึงพูดตลกว่า น่าจะเปลี่ยนไปเป็นพิทเชอร์แทนซาวามูระ
แต่ซาวามูระบอกว่าถ้าโทโจทำได้ เขาก็ทำได้เหมือนกัน ในขณะที่มิยูกิกำลังจะเอ่ยปากบอกให้เลิกฝึก
เพราะกลัวว่าจะเป็นการทำลายฟอร์มการขว้างเดิม แต่โค้ชโอจิไอกลับเอ่ยให้คำแนะนำในการขว้างลูกขึ้นมาเสียก่อน

เมื่อซาวามูระได้รับคำแนะนำของโค้ช ก็ลองทำตาม จึงขว้างบอลได้ ก็ออกอาการดีใจ ในขณะที่คนอื่นมองอย่างอึ้งๆ
โค้ชโอจิไอบอกว่าอย่าเพิ่งดีใจไปกับการขว้างบอลได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งอาจจะเป็นแค่ ลูกฟลุ๊กเท่านั้น
และบอกกับมิยูกิว่า ที่เหลือก็แค่ให้ฝึกขว้างบอลให้ต่ำลง มิยูกิจึงถามว่าที่โค้ชสอนเชนจ์อัพให้ซาวามูระนั้น
เพราะมั่นใจว่าซาวามูระจะสามารถขว้างได้ใช่หรือไม่ โค้ชโอจิไอไม่ตอบ แต่หันไปบอกซาวามูระให้ลองจับบอล
แบบอื่นดู แล้วเลือกแบบที่จับถนัดที่สุดมาฝึกซ้อมให้ชำนาญ 

ซาวามูระได้ใจที่เพิ่งสามารถขว้างบอลได้ ก็ลองจับบอลแบบใหม่แล้วขว้างดู ปรากฎว่าวิถีบอลเปลี่ยนไปจากเดิม
มิยูกิไม่สามารถรับบอลได้ ทำให้ทุกคนรู้สึกอึ้ง มีเพียงซาวามูระที่ไม่ได้รู้สึกอะไรนอกจากตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
และเมื่อซาวามูระลองจับบอลแบบอื่นขว้างอีก ก็ยิ่งทำให้คนที่ดูอยู่ตะลึงยิ่งขึ้น เมื่อวิถีบอลนั้นได้เปลี่ยนไป
ตามวิธีการจับบอล

นาเบะนึกถึงเรื่องที่มิยูกิพูดเกี่ยวกับพัฒนาการมูฟวิ่งบอลของซาวามูระ ในการขว้างเบรกบอลนั้น
(...เชนจ์อัพ ก็เป็นเบรกบอลอย่างหนึ่ง...) พิทเชอร์แต่ละคนแม้จะเรียนรู้วิธีการขว้างบอลแบบเดียวกัน
แต่วิถีของบอลที่แต่ละคนขว้างนั้นจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสรีระและเทคนิคการขว้าง
แต่ในกรณีของซาวามูระที่วิถีบอลเปลี่ยนไปตามวิธีการจับบอลนั้น เป็นการขว้างบอลที่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัว
ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ และนี่คือ...พัฒนาการมูฟวิ่งบอลของซาวามูระอีกอย่างหนึ่ง

และการที่ซาวามูระสามารถขว้างเชนจ์อัพได้ภายในเวลาคืนเดียวนั้น ก็สร้างความตกใจให้กับทุกคนไม่น้อย
แค่เห็นเจ้าทึ่มขว้างเชนจ์อัพได้เท่านั้น...แต่ละคน ดูทำหน้าเข้าสิ

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สปอยล์ขั้นรุนแรง3

จะว่าไปการแข่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี่ดราม่าเยอะเหมือนกันนะคะ เพราะว่าปีสามแต่ละทีมได้เลิกเล่นไปแล้ว
ดังนั้นแต่ละทีมจึงต้องฟอร์มทีมใหม่ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องเป็นธรรมดาที่ยังเล่นไม่เข้าขากันดีนัก
ยิ่งผู้เล่นเก่าอีโก้สูงๆ ด้วยแล้ว คงจะยอมรับผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาแทนคนเก่าที่เลิกเล่นไป ไม่ได้ในทันที

อย่างเช่น นารุมิยะ เมย์ เอชของอินาชิโระ ที่ได้ชื่อว่า เจ้าชายผู้เอาแต่ใจ นั้น ยังยอมรับ
ทาดาโนะ อิทสึกิ แคทเชอร์ปีหนึ่ง ที่มาแทนฮาราดะ อดีตกัปตันทีมและแคทเชอร์ที่เลิกเล่นไปไม่ได้
จึงทำให้อินาชิโระพ่ายให้กับทีมอุกุโมริไป ในศึกฤดูใบไม้ร่วงนี้

ไม่เข้มจริง เป็นโค้ชคุมทีมไม่ได้หรอกนะ...

อินาชิโระทีมใหม่มีปัญหาภายใน ก็ใช่ว่าเซย์โดเองจะไม่มี ((แม้แต่ปัญหาก็ไม่ยอมน้อยหน้ากัน))
ทางนี้หวิดวางมวย
ความขัดแย้งกันระหว่างมิยูกิ กัปตันทีมกับซูโนะ รองกัปตันนั้น ทำเอาบรรยากาศในทีมตึงเครียด
โดยเฉพาะในหมู่ผู้เล่นปีสอง จะมีแต่คุราโมจิ รองกัปตันอีกคนเท่านั้นที่ยังเฉยๆ เพราะเข้าใจ
ทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี จึงไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนเป็นพิเศษ

แต่เมื่อแข่งรอบสามเสร็จสิ้น รุ่นพี่ปีสามไม่ว่าจะเป็นอดีตกัปตันยูกิ และอดีตรองกัปตันอิซาชิกิ
ต่างก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้มิยูกิกับซูโนะ เริ่มปรับความตัวและเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น
บรรยากาศในทีมจึงกลับมาคึกคักเหมือนเดิม (รุ่นพี่อย่างเท่ห์...หุหุหุ)

รอบสาม


การแข่งรอบสามเป็นการพบกันระหว่างเซย์โดกับทีมอุกุโมริ ที่เอาชนะอินาชิโระมาได้
บรรยากาศภายในทีมเซย์โดยังอึมครึมเพราะความขัดแย้งกันระหว่างมิยูกิกับโซโนะ แต่ว่าทั้งคู่เลือก
ที่จะปล่อยวางปัญหานั้นไว้ก่อน เพื่อลุยกับการแข่งให้เต็มที่

การแข่งนัดนี้ฟุรุยะกลับมาลงเป็นสตาร์ทเตอร์ได้อีกครั้ง แต่ก็เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เมื่อปล่อยวอล์กไป
สองครั้งติดกัน เมื่อถึงตาอุเมมิยะ เอชของทีมอุกุโมจิและเป็นคลีนอัพของทีมด้วยขึ้นมาตี
คำพูดของเขาที่ว่า "อย่าวิ่งหนีไปซะล่ะ" ที่ฟุรุยะ ซาวามูระและฮารุจจิบังเอิญ
ไปเจอในห้องน้ำก่อนการแข่งขันนั้น ทำให้ฟุรุุยะมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะดวลกันกับไม้นี้
จึงขว้างบอลไปตรงกลางโดนไม่สนใจสัญญาณขอบอลของมิยูกิแม้แต่น้อย
อุเมมิยะตีโฮมรันได้ ทำให้อุรุโมจิออกนำไปก่อน 3 คะแนน มิยูกิจึงขอเวลานอก 
และต่อว่าฟุรุยะ ทำให้ฟุรุยะได้สติ และไม่ปล่อยคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามอีก

เมื่อเซย์โดเป็นฝ่ายบุก การขว้างบอลของอุเมมิยะสร้างปัญหาให้กับไลน์อัพของเซย์โดไม่น้อย
แต่เมื่อถึงตาของมิยูกิขึ้นมาตี เขาก็สามารททำฮิทได้ เพราะได้ดูบันทึกการแข่งระหว่างของอุกุโมจิ
กับอินาชิโระที่นาเบะบันทึกมาให้ คุราโมจิจึงวิ่งกลับจุดโฮมได้ เซย์โดทำคะแนนไล่ตามมาหนึ่งแต้ม

โซโนะที่เป็นไม้ต่อจากมิยูกินั้น แม้จะทะเลาะกันแต่ก็ยอมรับในความสามารถของมิยูกิ ทำให้เขา
ยอมแพ้ในเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วก็สามารถทำฮิทได้เช่นเดียวกัน มิยูกิวิ่งกลับจุดโฮมได้ ทำคะแนนไล่ตามมา
อีกหนึ่ง ซึ่งเกมรับของเซย์โดหลังจากนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะฟุรุยะกลับมาขว้างบอลได้เหมือนเดิม
ทำสไตร์คเอาท์แบทเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามได้ในเวลารวดเร็ว

ทาดาโนะ แคทเชอร์คนใหม่ของทีมอินาชิโระ ที่โค้ชสั่งให้มาดูการแข่งครั้งนี้กับฟุคุ กัปตันทีมคนใหม่นั้น
รู้สึกทึ่งไม่น้อยเมื่อเห็นการเล่นของมิยูกิ ที่สามารถดึงฟุรุยะกลับมาเล่นในเกมได้เหมือนเดิม หลังจากที่
ฟุรุยะแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยากจะดวลกับคลีนอัพฝ่ายตรงข้ามและไม่หวั่นไหวไปกับลูกโฮมรัน
ที่เสียไป ซึ่งตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงที่ไม่สามารถดึงนารุมิยะกลับมาสู่เกมได้

ฟุคุที่เห็นท่าทีของทาดาโนะเป็นแบบนั้น จึงเข้าใจเหตุผลว่า ที่โค้ชให้มาดูการแข่งครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อให้มาดู
การแข่งของทีม แต่ให้ทาดาโนะได้มาดูการเล่นของมิยูกิต่างหาก

เซย์โดทำการบุกได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อจบอินนิ่งห้าแล้ว จึงมีคะแนนขึ้น 6 - 3 แต่เมื่อถึงอินนิ่งที่เจ็ด
มิยูกิเริ่มรู้สึกว่าสปีดบอลของฟุรุยะตกลงและบอลไม่ทรงพลังเหมือนเดิม สาเหตุก็มาจากฟุรุยะ
ได้รับบาดเจ็บตอนวิ่งขึ้นเบส แต่ไม่ได้บอกใคร

จบอินนิ่งเจ็ด เซย์โดยังเป็นฝ่ายนำอยู่ 8 - 3 แต่ผู้เล่นทีมอุกุโมจิก็ยังมีกำลังใจดีอยู่ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เมื่อขึ้นอินนิ่งแปด อุเมมิยะสามารถทำฮิทได้ ทำให้แบทเตอร์คนต่อไปเกิดความฮึกเหิม จึงตีบอลของ
ฟุรุยะได้ด้วยเช่นกัน อุเมมิยะวิ่งกลับจุดโฮมได้ อุกุโมจิทำคะแนนไล่ตามมาอีกหนึ่ง

จากการบุกจู่โจมอย่างต่อเนื่องทำให้อุกุโมจิทำคะแนนไล่ตามมาเป็น 8 -7 ทำให้ผู้เล่นเซย์โดเริ่มวิตก
เพราะตอนนี้กระแสเกมเป็นของทีมอุกุโมิจิ ซาวามูระทนดูไม่ได้จึงตะโกนโววายอยู่ข้างสนาม
แต่คำพูดของซาวามูระกลับทำให้ผู้เล่นของเซย์โด กลับมาฮึดได้โดยเฉพาะฟุรุยะที่กลับมา
ทำสไตร์คเอาท์ ปิดเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามได้

เมื่อถึงอินนิ่งเก้าซึ่งเป็นอินนิ่งสุดท้าย โค้ชคาตาโอกะส่งซาวามูระลงไปเล่นแทนฟุรุยะ ในภาวะกดดัน
ที่กองเชียร์ทั้งสนามต่างส่งเชียร์ทีมอุกุโมจิ
ชอบฉากนี้เป็นการส่วนตัว...เกรียนพี่กับแสบน้อง...เขาวางแผนร้ายกันล่ะ
แม้ซาวามูระจะเริ่มขว้างได้ไม่ค่อยดีนะ เพราะรู้สึกเกร็งที่กรรมการขานบอลวงนอกมุมต่ำ ที่ตัวเองคิดว่า
เป็นสไตร์ค เป็น "บอล" ทำให้เขาควบคุมบอลไม่ได้ แต่เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับอุเมมิยะ ซี่งถ้าสามารถ
ทำเอาท์ได้ เซย์โดก็จะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าอุเมมิยะตีได้ก็อาจจะทำให้อุกุโมริพลิกกลับมาชนะได้เช่นกัน

อุเมมิยะตีบอลของซาวามูระได้ แต่เป็นบอลฟาวล์ไป ทำให้ซาวามูระเริ่มเครียด อีกทั้งอุเมมิยะยังกดดัน
ให้ซาวามูระอยากจะดวลกับตน บอลที่ขว้างไปจึงเริ่มจะพุ่งเข้าตรงกลาง มิยูกิสังเกตเห็นเรื่องดังกล่าว
แม้ซาวามูระตั้งใจจะขว้างบอลตามที่ตนขอ แต่สัญชาตญาณของพิทเชอร์ที่ถูกท้าทายทำให้ขว้างบอล
เข้าตรงกลางโดยไม่รู้ตัว

ในขณะที่ทาดาโนะที่ตั้งใจดูมิยูกิอยู่ ก็สังเกตเห็นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกับที่เคยขึ้นกับ
นารุมิยะ ในการแข่งที่อินาชิโระแพ้ให้กับอุกุโมริ เขาจึงอยากจะรู้ว่ามิยูกิจะทำอย่างไร 

การที่คนดูต่างก็เห็นว่า ซาวามูระที่ขว้างได้แต่ฟาสต์บอล เอาแต่ขว้างบอลวงนอกนั้น ต่างก็คิดกันไปว่า ซาวามูระกลัวการดวลกันกับอุเมมิยะจึงพยายามเลี่ยงขว้างลูกวงใน 

โค้ชโอจิไอที่คอยจับตาดูอยู่ก็คิดว่านี่คือนัดสุดท้ายของโค้ชคาตาโอกะที่จะคุมทีมเซย์โดแล้ว 
ในขณะที่ฟุคุบอกว่า แคทเชอร์คงจะขอบอลง่ายขึ้น ถ้าซาวามูระสามารถขว้างบอลอย่างอื่นที่
ทำให้แบทเตอร์กะจังหวะพลาดได้ ทาดาโนะที่เป็นแคทเชอร์เหมือนกันจึงบอกว่า แคทเชอร์สามารถ
ขอบอลอะไรก็ได้ถ้าพิทเชอร์มีความสามารถ แต่ตรงกันข้ามถ้าพิทเชอร์ไม่มีฝีมือพอ แคทเชอร์ก็ทำอะไรไม่ได้เลย

ซึ่งทาดาโนะก็นึกเปรียบเทียบกับตนเองขึ้น ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้งๆ ที่นารุมิยะเป็นพิทเชอร์
ที่มีความสามารถมากระดับประเทศเลยก็ว่าได้

ในที่สุดมิยูกิก็ตัดสินใจขอลูกคัตเตอร์วงใน ตามคำแนะนำของโค้ชคาตาโอกะก่อนแข่ง
ที่ให้ใช้ลูกวงในเป็นตัวหลอกล่อคู่ต่อสู้ ในเกมที่สู้กันด้วยบอลวงนอก และซาวามูระก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
เมื่อสามารถขว้างลูกคัตเตอร์วงในได้ และเอาท์อุเมมิยะไปได้ ทำให้จบเกมเซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะ
ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ


สปอยล์ขั้นรุนแรง2

มาต่อกันด้วยช่วงที่สาม ภาคการแข่งภาคฤดูใบไม้ร่วง
คิดอยู่นานว่าจะเขียนยังไงดี...เอาเป็นว่า จะสรุปการแข่งขันของแต่ละนัด
ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ นอกเหนือการแข่งขันนี่จะสรุปเป็นบางช่วงก็แล้วกันนะคะ

ในการจับฉลากแบ่งสาย มิยูกิในฐานะกัปตันเป็นตัวแทนไปจับฉลาก
และก็มือดี จับได้อยู่สายแข็ง เรียกได้ว่า สายมรณะ ก็ว่าได้
เพราะแชมป์ภาคฤดูร้อนของโตเกียวอยู่สายนี้ทั้งสองทีม...เอิ๊กส์

รอบแรก

โดยรอบแรกเซย์โด (รองแชมป์ฝั่งตะวันตก) จะพบกับเทย์โต (แชมป์ฝั่งตะวันออก)
เรียกได้ว่าเป็นนัดที่คนให้ความสนใจไม่น้อยเพราะทั้งสองทีมคือว่าเป็น
ทีมดังของโตเกียวกันทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าเทย์โตจะมีภาษีดีกว่า

นัดนี้แข่งกันท่ามกลางสายฝน และได้เปิดตัวว่าที่น้องใหม่เป็นครั้งแรก
ซึ่งสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ในรูปข้างล่างนี้ ตัดสินใจว่า...จะเข้าทีมที่เป็นฝ่ายชนะในวันนี้

โค้ชโอจิไอบอกกับโค้ชคาตาโอกะว่า ถ้าตัวเองเป็นคนทำทีมเซย์โด
เขาจะใช้การแข่งในทัวร์เมนต์นี้ให้ฟุรุยะเป็นศูนย์กลางของทีม ทั้งในฐานะของเอช
และคลีนอัพ (ไม้สี่) ของทีม ซึ่งเป็นทางลัดที่จะทำให้เซย์โดไปโคชิเอ็งในการแข่งหน้าร้อนได้
แต่โค้ชคาตาโอกะไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีความคิดที่จะทำทีมเพื่อส่งเสริมให้คนเพียงคนเดียว
แข็งแกร่งขึ้น 

ในการแข่งนัดแรกนี้ ฟุรุยะได้ลงเป็นสตาร์ทเตอร์ และก็ทำได้ดีเช่นเดียวกับมุไค เอชของเทย์โต
ทั้งสองทีมจึงยังเสมอกันอยู่ 0 - 0 แต่ฝนที่ตกมาอย่างหนัก ทำให้ต้องยุติการแข่งชั่วคราว
เมื่อฝนเริ่มซาก็แข่งต่ออีกครั้ง แต่ฟุรุยะกลับไม่สามารถควบคุมบอลได้เหมือนเดิม ในขณะที่
มุไคยังขว้างได้ดีเหมือนเดิม

ซาวามูระถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทนฟุรุยะในอินนิ่งที่หก ในสถานการณ์ที่ทีมกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต
เซย์โดตามหลังอยู่ 1 คะแนน 1 เอาท์ รันเนอร์บนเบสสอง สไตร์ค 0 บอล 2 
โค้ชโอจิไอที่เห็นซาวามูระลงเล่นจึงคิดว่า โค้ชคาตาโอกะติดสินใจยอมแพ้ในการแข่งครั้งนี้แล้ว
((ตานี่...คิดว่าฟุรุยะเก่งอยู่แค่คนเดียว...เชอะ))

สองนักข่าวขาประจำต่างตื่นเต้นระคนสงสัยที่เห็นซาวามูระลงสนาม เพราะตั้งแต่นัดชิงในหน้าร้อนแล้ว
ก็ไม่เคยเห็นซาวามูระลงแข่งอีกเลย ในขณะที่โค้ชของเทย์โตจำซาวามูระในการแข่งหน้าร้อน
กับอินาชิโระได้ จึงเตือนให้ลูกทีมระวังลูกวงในของ เจ้าเด็กไม่รู้จักกลัว ให้ดี 
(ฉายาของซาวามูระได้มาตอนแข่งหน้าร้อน)

ในขณะที่แบทเตอร์ของเทย์โตระวังลูกวงใน ซาวามูระกลับขว้างลูกวงนอกและขว้างสไตร์คได้
ตั้งแต่บอลแรก ทำให้ผู้เล่นของเซย์โดทุกคนรู้สึกตื่นเต้นไปตามๆ กัน เพราะนี่คือการแข่งครั้งแรก
ของซาวามูระหลังจากเป็นยิปส์ และเขาก็หยุดการบุกของเทย์โดในอินนิ่งได้สำเร็จ

อินนิ่งต่อมาไลน์อัพของเซย์โดก็เริ่มกดดันมุไคมากขึ้น แม้จะไม่สามารถทำคะแนนได้ ในขณะที่
ซาวามูระก็ไม่ปล่อยให้คะแนนให้อีกฝ่ายเช่นกัน จนกระทั่งต้องเผชิญหน้ากับอินุย แคทเชอร์และ
คลีนอัพของเทย์โต มิยูกิจึงตัดสินใจขอลูกวงใน ซาวามูระพยายามขว้างแต่ยังทำไม่ได้
วิถีบอลยังพุ่งมาตรงกลาง อินุยจึงหวดบอลได้ แต่โชคดีที่ไม่ใช่โฮมรัน อินุยวิ่งขึ้นเบสได้สำเร็จ

ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงซาวามูระนั้น เขากลับสร้างความประหลาดใจให้ทุกคนอีกครั้ง
ด้วยการตะโกนว่า...เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ก็จะใช้ทุกอย่างที่มีสู้ให้ถึงที่สุด 
มิยูกิจึงตัดสินใจจะไม่ขอลูกวงในอีก และผู้เล่นฟิลเดอร์ของเซย์โดต่างก็พยายามตั้งใจเล่นมากขึ้น
เมื่อจบอินนิ่งนี้ฝ่ายตรงข้ามก็ยังทำคะแนนเพิ่มไม่ได้

ฟุรุยะที่ดูอยู่จากม้านั่งสำรองก็เริ่มเข้าใจเรื่องที่มิยูกิกับโค้ชเคยบอกว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่อง
ที่บอลถูกตีได้ แต่เป็นเรื่องที่จะทำอย่างไรหลังจากบอลถูกตีได้ต่างหาก

ในที่สุดการบุกของเซย์โดก็ประสบผลสำเร็จ เมื่องซูโนะสามารถทำฮิทได้ ทำให้รันเนอร์วิ่งกลับจุดโฮม
เซย์โดพลิกกลับมานำสองคะแนนได้ในที่สุด และในอินนิ่งสุดท้ายคาวากามิได้ลงไปเล่นแทน
ซาวามูระ แต่เมื่อปล่อยให้เทย์โตทำคะแนนไล่ตามมาอีกแต้ม ก็ออกอาการหวั่นไหว
เพราะการแข่งนัดชิงในหน้าร้อนยังเป็นภาพติดตาอยู่ มิยูกิจึงขอเวลานอก ผู้เล่นอินฟิลเดอร์ต่างก็
พูดให้กำลังใจคาวากามิ ในขณะที่มิยูกิบอกว่า...หลังฝนตก ท้องฟ้าจะสวยงามเสมอ

คาวากามิกลับมาขว้างบอลได้ดีเหมือนเดิม ปิดเกมโดยไม่ปล่อยคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามอีก
ทำให้เซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะเทย์โต แชมป์จากฝั่งตะวันออก ผ่านเข้าสู่รอบสองได้สำเร็จ

รอบสอง

โค้ชโอจิไอถามโค้ชคาตาโอกะเมื่อกลับมาถึงโรงเรียนแล้วว่าทำไมถึงให้ซาวามูระลงแข่ง
ซึ่งโค้ชคาตาโอกะตอบไปว่า ในหัวตอนนั้นมีเพียงซาวามูระเพียงคนเดียวที่พร้อมลงเล่นโดยไม่สนว่า
คู่แข่งจะเป็นทีมเทย์โตที่มีชื่อเสียงมากก็ตาม และอีกอย่างฝ่ายตรงข้ามระแวงลูกวงในของเขา
แต่เรื่องที่ให้เล่นจนถึงอินนิ่งแปด ก็เป็นอะไรที่ไม่ได้คิดมาก่อน ที่สำคัญการเล่นของเขาเป็นประโยชน์
ต่อทีมไม่น้อย 

ซึ่งโค้ชคาตาโอกะอธิบายต่อว่า...คนเพียงคนเดียวทำให้ทีมเก่งขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าทั้งทีมแข็งแกร่งขึ้น 
ความสามารถรายบุคคลก็จะพัฒนาตามขึ้นไปด้วย เมื่อผู้เล่นในทีมเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่ง
เป็นประสบการณ์ที่เรียนรู้จากเซย์โดทีมที่แล้ว

การแข่งรอบสองเซย์โดพบกับทีมนานาโนริ มิยูกิได้ขอร้องให้วาตานาเบะ ฮิซาชิ (เรียกสั้นๆ นาเบะ)
ช่วยไปสังเกตการแข่งระหว่างอินาชิโระกับอุกุโมริ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เซย์โดแข่ง

รีบสารภาพบาปก่อนจะโดนเฉ่ง สรุปแล้วโค้ชเรียกตัวมาเพื่อ...

ในการแข่งครั้งนี้ซาวามูระได้ลงเป็นสตาร์ทเตอร์ ส่วนฟุรุยะได้เล่นเป็นเลฟต์ฟิลเดอร์
โค้ชของทีมนานาโมริดีใจจนออกนอกหน้าที่เห็นฟุรุยะไปเล่นเอาท์ฟิลด์
ก่อนการแข่งขันคุราโมจิกับโซโนะมาช่วยซาวามูระกับมิยูกิวอร์มอัพที่บลูเพน
แล้วซาวามูระก็สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนด้วยแผนการที่จะใช้บอลวงในไว้หลอกผู้แข่ง
และก็ขว้างบอลวงในใส่คุราโมจิโดยไม่รู้ตัว 

ในอินนิ่งแรกเซย์โดบุกได้อย่างน่ากลัว จึงออกนำไปก่อน 5 คะแนน เมื่อเปลี่ยนมาเล่นเกมรับ
มิยูกิบอกซาวามูระว่าจะไม่บังคับให้ซาวามูระขว้างบอลวงใน แต่เขาจะขอบอลวงในเมื่อมีโอกาส

ซาวามูระสามารถใช้บอลวงนอกสไตร์คเอาท์แบทเตอร์ของนานาโมริได้อย่างไม่มีปัญหา
มิยูกิจึงลองขอบอลวงในดูบ้าง แต่ก็กลายเป็นเดดบอลไป เพราะวิถีบอลไม่ได้พุ่งมาตรงกลาง
แสดงให้เห็นว่าซาวามูระพยายามจะขว้างเข้าวงในให้ได้ สร้างความประหลาดใจให้กับ
โค้ชโอชิไอที่จับตาดูอยู่ไม่น้อย

หลังจากเดดบอลลูกนั้นแล้ว ซาวามูระยังตั้งตัวไม่ได้จึงปล่อยวอล์กไป เมื่อไม้ต่อมาเป็นคลีนอัพของทีม
ที่สังเกตเห็นว่าซาวามูระขว้างแต่บอลวงนอกเท่านั้น จึงตั้งท่ารอบอลวงนอกอย่างไม่ลังเล
และสามารถตีบอลแรกได้ แต่เป็นฟาวล์บอลไป เพราะยังกะจังหวะเหวี่ยงไม้ไม่ได้

บอลต่อมามิยูกิอยากจะขอลูกวงใน แต่เพราะเดดบอลที่เพิ่งเกิดขึ้น อีกทั้งทีมยังมีคะแนนนำอยู่
จึงตัดสินใจใช้บอลวงนอกสู้กับไม้นี้ แต่ว่า...
แม้แต่คนโง่อย่างฉันยังดูออกว่าหมอนี่กำลังรออะไร...

และซาวามูระก็สามารถขว้างบอลวงใน ทำสไตร์คได้สำเร็จ ทั้งผู้เล่นและกองเชียร์เซย์โดที่รู้ปัญหา
เรื่องยิปส์ของซาวามูระดีต่างก็ดีใจกันยกใหญ่ แต่มิยูกิยังไม่อยากด่วนสรุปว่าซาวามูระสามารถขว้าง
บอลวงในได้แล้วจริงๆ จึงลองขอบอลวงในอีก แต่กลับถูกตีได้ง่ายๆ โชคดีที่ฟุรุยะช่วยส่งบอล
กลับมาได้ ทำให้เซย์โดรอดพ้นจากการเสียคะแนน

ซึ่งการส่งบอลของฟุรุยะครั้งนี้ ทำให้ซาวามูระได้สติกลับมาว่า เขาเป็นคนโง่ที่ขี้ขลาดถึงได้ทิ้ง
สิ่งสำคัญที่ตัวเองมีไป และต่อจากนี้ เขาจะไม่หนีอีกแล้ว

เมื่อตั้งตัวได้ซาวามูระก็กลับมาขว้างบอลวงในได้สำเร็จ อีกทั้งไลน์อัพของเซย์โดก็เริ่มเล่นเกมบุก
ได้อย่างหนักหน่วง ทำให้กรรมการยุติการแข่งขันที่อินนิ่งห้า เซย์โดเป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนน 11 - 0

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สปอยล์ขั้นรุนแรง1

สืบเนื่องจากว่าช่วงนี้กำลังงานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาได้แปลเท่าไร
อีกทั้งเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปไกลแล้วมาก...คงมีหลายๆ คนอยากจะรู้
ว่าตอนล่าสุดนี้ ไปถึงไหนกันแล้ว...

ดังนั้นวันนี้จะมาสปอยล์แบบขั้นรุนแรงให้อ่านกัน...ใครที่รออ่านมังงะ
ไม่อยากรู้ก็ปิดตาข้ามไปเลยนะคะ

เรื่อง Daiya No A นี้ ของ อ.เทราจิม่า ยูจิ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2006
(มาจนถึงตอนนี้ก็ประมาณแปดปีกว่าแล้ว...แต่เวลาในมังงะยังผ่านไปไม่ถึงปีเลย)

นอกจากตอนปกติ ซึ่งตอนนี้ถึงตอนที่ 384 แล้ว (ณ วันที่ 7 มิ.ย.)
ยังมีตอนพิเศษออกมาแล้ว 3 ตอน กับ 1 เรื่องสั้น ด้วยกันคือ
- ตอนพิเศษ มิยูกิ คาซูยะ (ในเล่ม 6)
- ตอน Outrun (เรื่องของคุราโมจิ ในไกด์บุ๊ค เล่ม 1)
- ตอน Face (เรื่องของเรียวสุเกะ โคมินาโตะ ในไกด์บุ๊ค เล่ม 2...ปัจจุบัน ยังไม่วางแผง)
- เรื่องสั้น "the batman under the bridge" (เรื่องของโทโดโรกิ ไรจิ ในปี 2006)

ตอนปกติ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง (เราแบ่งเอาเอง...เพื่อความสะดวกในการเรียก)
ช่วงแรกคือ ช่วงการแข่งภาคฤดูร้อน (รวมเล่มก็ประมาณ เล่ม 1 - 22)
ช่วงที่สอง คือ หลังจบการแข่งภาคฤดูร้อนก่อนจะเริ่มแข่งภาคฤดูใบไม้ร่วง (เล่ม 23 - 27)
ช่วงที่สาม คือ ช่วงการแข่งภาคฤดูใบไม้ร่วง (เล่ม 28 - ปัจจุบัน)

+++++++

เนื้อหาของช่วงแรกนี้จะพูดไม่เยอะนะคะ เพราะสร้างเป็นอะนิเมะแล้วและแปลไปบ้างแล้ว
จะสปอยล์ต่อจากเล่ม 14 ที่ได้สปอยล์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว...ก็คือ

หลังจากเซย์โดเอาชนะยาคูชิได้ ก็ผ่านเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายไปเจอกันทีมเซนเซน
ซึ่งยูกิ เอชของทีมนี้ เคยมาทดสอบความสามารถเข้าที่เซย์โดแต่ไม่ผ่านการคัดเลือก
ก็เลยฝังใจอยากจะเอาชนะเซย์โดให้ได้

การแข่งขันในรอบนี้โค้ชไม่ให้ฟุรุยะลงเล่น เพราะอยากจะให้พัก ทันบะได้ลงเป็นสตาร์ทเตอร์
ซาวามูระเป็นรีลีฟ และคาวากามิเป็นโคลสเซอร์ ซึ่งในนัดนี้เพื่อนๆ สมัยเรียน ม.ต้น
ของซาวามูระได้มาดูการแข่งขันด้วย

จบเกมเซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แต่เรียวสุเกะ ได้รับบาดเจ็บที่เท้า (แต่ไม่มีใครรู้)
เซย์โดผ่านเข้ารอบไปพบกับทีมอินาชิโระ ซึ่งเอาชนะทีมซากุระซาวะมาได้

ในนัดชิงชนะเลิศให้ฟุรุยะลงเป็นสตาร์ทเตอร์ และให้ทันบะเป็นโคลสเซอร์
โค้ชตั้งใจจะใช้พิทเชอร์แค่สองคนเท่านั้น เพราะถ้าเปลี่ยนตัวบ่อยๆ อาจจะเกิดผลเสียกับทีม
ฟุรุยะขว้างบอลได้ดีจนกระทั่งไลน์อัพของอินาชิโระเริ่มคุ้นกับบอล จึงถึงเปลี่ยนให้ไปเป็น
เลฟต์ฟิลเดอร์ และทันบะลงไปเป็นพิทเชอร์แทน

แต่ทันบะเกิดอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริวขณะแข่ง ซาวามูระจึงถูกเปลี่ยนลงไปเล่นแทน
ซึ่งอินาชิโระมีคะแนนนำอยู่และต้องการปิดเกมให้เร็วที่สุด แต่ว่าซาวามูระกลับสามารถ
หยุดเกมบุกของอินาชิโระได้

เรียวสุเกะขอเปลี่ยนตัวออก เพราะอาการบาดเจ็บที่ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้อย่างที่คิด
ฮารุอิจิจึงลงไปเล่น และในที่สุดเซย์โดก็พลิกกลับมานำได้สำเร็จจากการตีโฮมอิน
(การตีที่ทำให้รันเนอร์วิ่งกลับจุดโฮมได้) ของกัปตันยูกิ

เซย์โดมีคะแนนนำจนถึงอินนิ่งที่เก้า ซึ่งเป็นอินนิ่งสุดท้าย ไลน์อัพของอินาชิโระก็ยังทำคะแนน
จากซาวามูระไม่ได้ จนกระทั่งสองเอาท์ เหลืออีกแค่หนึ่งเอาท์เซย์โดก็จะเป็นฝ่ายชนะ
แต่เพราะแรงกดดันทำให้ซาวามูระขว้างเดดบอล และไม่สามารถเล่นต่อได้จึงถูกเปลี่ยนออก
ให้คาวากามิลงมาเล่นแทน

สุดท้ายแล้ว...เซย์โดแพ้ (กระซิกๆๆๆๆ ทำไมไม่เหมือนมังงะกีฬาเรื่องอื่นก็ไม่รู้ที่ทีมหลัก
ของเรื่องมักจะชนะในตอนจบ...งอแง ปวดใจอ่านต่อไม่ได้อยู่พักใหญ่)

+++++++++

ต่อมาเนื้อหาช่วงที่สอง หลังจบการแข่งขันภาคฤดูร้อน ก่อนถึงการแข่งขันภาคฤดูใบไม้ร่วง

เนื้อหาในช่วงนี้จะอืมครึมตามบรรยากาศในทีมหลังจากพบกับความพ่ายแพ้
ปีสามเลิกเล่น โค้ชคาตาโอกะยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นโค้ช แต่ยังอยู่คุมทีมจนกว่า
จะจบการแข่งขันภาคฤดูใบไม้ร่วง และโอจิไอ ฮิโรมิสึ เข้ามาเป็นโค้ชคนใหม่

มิยูกิได้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ โดยมีรองกัปตันคือ คุราโมจิกับมาเอโซโนะ (สั้นๆ โซโนะ)

หลังจากความพ่ายแพ้ที่ทำได้เพียงแค่ยืนมองเฉยๆ ฟุรุยะจึงมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเอช
ของทีมให้ได้ ในขณะที่ซาวามูระยังคงโวยวายเหมือนเดิม ผิดกับคาวากามิที่เอาแต่โทษ
ตัวเองที่เป็นคนทำให้ทีมแพ้

ซึ่งระหว่างนี้เป็นช่วงปิดเทอม แต่สมาชิกทีมเบสบอลก็ยังคงฝึกซ้อมกันอยู่ และมีแข่งซ้อม
กับโรงเรียนต่างๆ เพื่อเตรียมทีมไว้ลุกศึกภาคฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึงนี้
ฟุรุยะกับซาวามูระผลัดกันลงเล่นและก็ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะฟุรุยะ ผิดกับคาวากามิที่ยังจม
อยู่กับผลการแข่งครั้งนั้น โดยมีโค้ชโอชิไอ สังเกตการณ์อยู่อย่างเงียบๆ

และเพื่อเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของทีมปัจจุบันโค้ชคาตาโอกะจึงตอบตกลง
การแข่งซ้อมกับทีมยาคูชิ เป็นทีมสุดท้ายก่อนเปิดภาคเรียนใหม่

ซึ่งผลปรากฎว่ายาคูชิเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ และจากการแข่งในครั้งนี้ทำให้ทางเซย์โดรู้ว่า
ซาวามูระเป็นยิป (อาการป่วยทางจิตใจ...) ซึ่งเป็นผลมาจากเดดบอลในรอบชิงชนะเลิศครั้งนั้น
ทำให้ไม่สามารถขว้างลูกวงในได้เลยสักครั้ง

โค้ชคาตาโอกะจึงห้ามไม่ให้ซาวามูระแตะลูกบอล ให้วิ่งกับฝึกกล้ามเนื้อช่วงล่างเพียงอย่างเดียว
ในขณะที่โค้ชโอจิไอคิดว่า จะไม่ให้ซาวามูระลงแข่งอีกแล้ว

คริสที่ได้ยินเรื่องของซาวามูระเข้าโดยบังเอิญ จึงขอให้คาเนมารุเล่ารายละเอียดให้ฟัง
และบอกไปว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะซาวามูระเป็นคนประเภทที่ ล้มแล้วพร้อมจะกระโจนไป
ข้างหน้าได้เสมอ

ในขณะที่คุราโมจิ รูมเมทของซาวามูระก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับมิยูกิ
มิยูกิที่ไม่เคยสนใจคนอื่นนอกจากเรื่องของเบสบอล ก็เริ่มเป็นห่วงซาวามูระขึ้นมา
แม้ว่าจะไม่ค่อยแสดงออก อีกทั้งยังบอกอีกว่า ถ้าซาวามูระเอาชนะยิปที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้
ทีมเซย์โดเองคงเสียหายไม่น้อย

ส่วนซาวามูระที่ใครๆ ต่างเป็นห่วงนั้น ก็สร้างความประหลาดใจให้เพื่อนร่วมชั้นและครู
เป็นอย่างมาก เพราะกลายเป็นคนเงียบขรึม เอาแต่อ่านหนังสือยากๆ
ตอนซ้อมก็เอาแต่วิ่ง

เมื่อการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อเข้าไปแข่งทัวร์นาเมนต์ฤดูใบไม้ร่วงมาถึง
ฟุรุยะได้เป็นเอชของทีม ซาวามูระยังติดทีมตัวจริงอยู่ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับคนในทีม
ไม่น้อย รวมถึงมีบางคนในทีมรู้สึกไม่พอใจ เพราะซาวามูระในตอนนี้ไม่มีประโยชน์กับทีมเลย

โค้ชคาตาโอกะได้ให้เหตุผลกับผู้ช่วยโค้ชไปว่า เพราะเห็นซาวามูระเริ่มเงยหน้าวิ่งได้แล้ว
ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาพร้อมที่จะก้าวข้ามกำแพงที่ขวางอยู่ตรงหน้าได้แล้ว

ตัวของซาวามูระเองก็สงสัยเช่นเดียวกันว่าทำไม คนไร้ประโยชน์อย่างตัวเองโค้ชถึงยังเลือก
ให้ติดทีมตัวจริงอยู่ เขาจึงพยายามซ้อมหนักกว่าเดิม และขณะฝึกขว้างบอลคนเดียวอยู่นั้น
คริสมาหา ขอให้ซาวามูระขว้างบอลให้ตนรับ

คริสให้ซาวามูระหัดขว้างบอลวงนอกมุมต่ำ ซึ่งตรงข้ามกับบอลวงในมุมสูง (ที่เคยขว้างได้
จนเป็นเดดบอลในนัดชิง) ซึ่งเป็นอีกลูกหนึ่งที่ตียากเพราะบอลจะอยู่ห่างจากไม้
คำพูดของคริสทำให้ซาวามูระนึกถึง คำพูดของมิยูกิที่เคยบอกว่า ที่ขอให้ขว้างลูกวงใน
เพราะด้วยความสามารถในตอนนี้ เขายังขว้างลูกวงนอกหรือลูกเบรกบอลไม่ได้

หลังจากนั้นมาซาวามูระก็หัดขว้างลูกดังกล่าว โดยมีคาเนมารุกับคาริบะ (แคทเชอร์ปีหนึ่ง)
มาช่วยฝึกด้วย โดยไม่รู้ว่ามีโค้ชคาตาโอกะ คริส และมิยูกิคอยดูอยู่
และในที่สุดซาวามูระกลับมาเป็น เจ้าพิทเชอร์จอมโวยได้เหมือนเดิม

เมื่อการแข่งรอบคัดเลือกเริ่มต้นขึ้น มีเพียงฟุรุยะกับคาวากามิเท่านั้นที่ได้ลงแข่ง
โดยที่ซาวามูระไม่ได้ลงแข่งเลยสักครั้ง และในการแข่งรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายที่แข่งกับ
ทีมอ่อนกว่านั้น ดูเหมือนเซย์โดจะหมดไฟไปเสียดื้อๆ ทั้งฟุรุยะที่ขว้างบอลได้ไม่ดีเหมือนเคย
และไลน์อัพที่ทำคะแนนได้น้อยกว่าที่คาดไว้

ในขณะที่ปีสามที่รู้ว่าโค้ชคาตาโอกะจะลาออกจากการเป็นโค้ชนั้น ต่างก็โทษว่าเป็นความผิด
ของพวกตนที่ไม่สามารถเอาชนะในนัดชิงได้ อีกทั้งเห็นทีมชุดปัจจุบันอ่อนปอกเปียก
จึงตกลงกันว่าจะขอแข่งกับทีมปีหนึ่งปีสอง

อดีตกัปตันยูกิเป็นตัวแทนของปีสาม ไปขออนุญาตโค้ชคาตาโอกะแข่งกับ
ทีมเซย์โดชุดปัจจุบัน ซึ่งโค้ชก็อนุญาต ในการแข่งครั้งนี้ คริสเป็นคนคุมทีมปีสาม
และมิยูกิเป็นคนคุมทีมปีหนึ่งปีสอง โดยมีโค้ชคาตาโอกะเป็นกรรมการ

ในการแข่งครั้งนี้ทันบะเป็นสตาร์ทเตอร์ให้กับทีมปีสาม และขว้างบอลได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนทีมปีหนึ่งปีสองนั้น ฟุรุยะได้เป็นสตาร์ทเตอร์ แต่ถูกไลน์อัพของปีสามตีบอลได้สบายๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรียวสุเกะ อิชิซากิ ยูกิ มัตสึโกะ ทีมปีสามจึงเป็นฝ่ายนำไปก่อน

ซึ่งระหว่างแข่งอิชิซากิได้บอกกับคุราโมจิเรื่องที่โค้ชคาตาโอกะลาออก
เมื่อคุราโมจิบอกคนอื่น ทุกคนได้แต่ตกใจไปตามๆ กัน มีเพียงมิยูกิเท่านั้นที่ทำราวกับ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเริ่มรู้สึกสงสัยตั้งแต่เห็นโค้ชโอชิไอเข้ามาป้วนเปี้ยนในทีมแล้ว
อีกทั้งยังได้คำแนะนำจากอดีตกัปตันอย่างยูกิอีกว่า...ถ้ากัปตันหวั่นไหว ทั้งทีมก็จะหวั่นไหวตาม

มิยูกิจึงทำเหมือนไม่ใส่ใจ แต่บอกกับทุกคนว่า การแข่งครั้งนี้ปีสามกำลังแนะนำสไตล์การเล่น
เบสบอลของเซย์โดให้รุ่นน้องอยู่ และบอกว่าเอาชนะในการแข่งภาคฤดูใบไม้ร่วงได้
ก็จะได้ไปแข่งโคชิเอ็งภาคฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า โค้ชจะยังทิ้งทีมไปไม่ได้
และนี่เป็นวิธีเดียวที่พวกเราทำได้ ทำให้ผู้เล่นชุดปัจจุบันกระหายในชัยชนะขึ้นมา

เมื่อขว้างได้สามอินนิ่งฟุรุยะก็ถูกเปลี่ยนตัวออก ให้คาวากามิลงไปเล่นแทน
และในที่สุดซาวามูระก็ได้ลงเล่นในอินนิ่งที่เจ็ด...และคริสก็คือไม้แรกที่ทีมปีสามส่งมาจัดการ
จบเก้าอินนิ่งคะแนนเสมอกันอยู่ โค้ชคาตาโอกะปล่อยให้เล่นต่อ โดยให้ปีสามทุกคน
ที่ยังไม่ได้ลงสนาม ให้ผลัดกันลงเล่นทุกคน การแข่งขันระหว่างทีมปีสามกับทีมปีหนึ่งปีสอง
ดำเนินไปจนถึงอินนิ่งสิบสี่ ที่ทีมปีสามเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้

เมื่อจบการแข่งขัน อดีตกัปตันยูกิได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า..."ในโลกแห่งการแข่งขัน
สำหรับคนที่ลงต่อสู้ มีผลแค่สองอย่างคือ ไม่แพ้ก็ชนะ เพราะฉะนั้น...อย่าแพ้เขานะ พวกนาย"

+++++++++

เดี๋ยวมาต่อช่วงที่สาม....


วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สปอยล์ เล่ม 14




ตอนที่ 112 หน้าที่ของแต่ละคน


ซาวามูระรู้สึกเสียใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออก เมื่อมาถึงที่ม้านั่งสำรองโค้ชได้บอกกับเขาว่าให้จำประสบการณ์
ในวันนี้เป็นบทเรียน เพื่อพัฒนาการเล่นที่ดียิ่งขึ้นในนัดถัดไป ส่วนคริสก็ได้ย้ำกับว่าสิ่งสำคัญที่โค้ช
ต้องการให้เขาเรียนรู้ก็คือ การเล่นอย่างไรหลังบอลถูกตีได้ ซึ่งซาวามูระก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสองต้องการ
จะบอกเขาอยู่ดี

แต่เมื่อเห็นคาวากามิพยายามขว้างบอลอย่างเต็มที่บนเนินขว้างลูก หลังจากปล่อยวอล์กไรจิ ทำให้
ซาวามูระตระหนักได้ว่าทุกคนในทีมล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ของตัวเอง สำหรับตัวเขาที่ถูกเปลี่ยนตัวออกมาแล้วนั้น
ในเวลานี้ไม่ใช่เวลามานึกเสียใจเรื่องที่เกิดขึ้น และเริ่มตะโกนเชียร์คาวากามิ เพราะเขาคิดว่านี่เป็นหน้าที่
ของเขาที่ควรจะทำในเวลานี้


ตอนที่ 113 เอาคืน


แม้คาวากามิจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหยุดไลน์อัพของยาคูชิได้
เมื่อแบทเตอร์ของยาคูชิตั้งใจหวดบอลตั้งแต่ลูกแรก โดยไม่สนใจว่าจะเป็นบอลเสียหรือว่าบอลดี
ทำให้ยาคูชิทำคะแนนไล่ตามมาจนเหลือห่างกันแค่หนึ่งแต้ม และไม้ต่อไปของยาคูชิคือซานาดะ
ทางเซย์โดจึงเปลี่ยนตัวพิทเชอร์ ให้ทันบะลงไปเล่นแทนคาวากามิ ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งนัดแรกของทันบะ
ในทัวร์นาเมนต์นี้


ตอนที่ 114 บอลแรก


การกลับมาลงเล่นเป็นครั้งแรกของทันบะทำให้หลายฝ่ายจับตามองไม่น้อย เพราะไม่มีใครทราบว่าทันบะ
ในตอนนี้มีความสมบูรณ์พร้อมแข่งมากน้อยแค่ไหน และอะไรเป็นสาเหตุให้ทางเซย์โดเก็บตัวเขาไว้จน
ถึงรอบแปดทีมสุดท้ายอย่างนี้

เพราะเป็นการลงแข่งครั้งแรกทำให้ทันบะรู้สึกเกร็ง แต่ได้ผู้เล่นปีสามที่อยู่ในสนามช่วยทำให้เขาผ่อนคลาย
ความตึงเครียดลง มิยูกิจึงบอกกับทันบะให้ขว้างบอลอย่างระมัดระวังตั้งแต่บอลแรก เพราะฝ่ายยาคูชินั้น
หวดบอลแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

บอลแรกมิยูกิจึงขอลูกวงนอกเพื่อเช็กแบทเตอร์แต่ปรากฎว่า ทันบะกลับขว้างบอลไปในทิศตรงกันข้าม
แต่เพราะเป็นบอลที่มีทั้งพลังและความเร็ว ทำให้ซานาดะตีเป็นลูกฟาวล์ไป


ตอนที่ 115 รู้ตัวดี


เพราะเป็นการลงเล่นครั้งแรกของทันบะในทัวร์นาเมนต์นี้ ทำให้เขารู้สึกกดดันไม่น้อย จึงขว้างบอลได้
ไม่ดีเท่าที่ควร แต่เพราะความสามารถของมิยูกิที่สามารถรับบอลที่ขว้างพลาดนั้นได้ การเล่นพลาดจึง
ยังไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเกม

ทันบะระลึกถึงคำพูดของโค้ชก่อนการแข่งขัน เขาจึงตั้งสติ ขว้างลูกอย่างใจเย็น และสามารถทำ
สไตร์คเอาท์ซานาดะได้สำเร็จ กระแสเกมจึงยังเป็นของเซย์โด 


ตอนที่ 116 แบกรับความคาดหวังของทุกคน


เซย์โดสามารถเปิดเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมิยูกิสังเกตเห็นว่าซานาดะเริ่มขว้างบอลแรงตกลง
แต่เพราะผู้เล่นของยาคูชิต่างก็ไม่ยอมแพ้ และพยายามป้องกันกันอย่างเต็มที่ ทำให้เซย์โดสามารถ
ทำคะแนนเพิ่มได้แค่คะแนนเดียว

เมื่อเปลี่ยนเกมการเล่น ขณะอยู่ที่ม้านั่งสำรอง โค้ชไรโซบอกกับลูกทีมว่า ตนไม่เคยคิดว่าทีมจะแพ้
ในการแข่งครั้งนี้ และทุกคนต่างก็ฝากความหวังไว้กับไรจิ


ตอนที่ 117 รอโอกาส


การแข่งขันดำเนินมาจนถึงอินนิ่งสุดท้าย เซย์โดยังคงเป็นฝ่ายนำอยู่สามแต้ม ในเกมรับของเซย์โด
กำลังอยู่ในสถานการณ์ สองเอาท์และมีรันเนอร์บนเบส และไม้ต่อไปที่ขึ้นมาตีก็คือ ไรจิ

ซึ่งเป็นความหวังของทีมยาคูชิ และทางเซย์โดต้องการจะทำเอาท์ให้ได้ เพื่อเป็นการปิดเกม


ตอนที่ 118 ไม้ตาย


เมื่อทันบะกับไรจิเผชิญหน้ากัน ต่างก็ไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กัน ไรจิที่เคยเอาแต่สนุกกับการเหวี่ยงไม้
และตื่นเต้นกับการเผชิญหน้าพิทเชอร์เก่งๆ กลับจริงจังขึ้นมาเมื่อนึกถึงความหวังของทุกคนในทีมที่
ฝากไว้กับตน 

ทำให้โค้ชไรโซ ผู้เป็นพ่อต้องตะโกนบอกให้เขาสนุกกับการตีบอลเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ผล

ในขณะที่มิยูกิบอกทันบะไม่ต้องกังวล เพราะทันบะยังมีไม้ตายซ่อนอยู่


ตอนที่ 119 ลูกสุดท้าย


ในที่สุดมิยูกิก็ส่งสัญญาณขอบอลโฟร์กบอล ซึ่งเป็นไม้ตายที่ทางยาคูชิไม่รู้ และทันบะก็ทำสไตร์คเอาท์
ได้สำเร็จ ทำให้ปิดเกมการแข่งขันไปอย่างสวยงาม เซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะยาคูชิไปได้ในที่สุด
ไปด้วยคะแนน 8 - 5 ผ่านเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้าย



ตอนที่ 120 ก้าวต่อไปสู่วันพรุ่งนี้


ผู้เล่นปีสามของทีมยาคูชิต่างกล่าวขอบคุณโค้ชไรโซ ที่ช่วยฝึกสอนเบสบอลให้พวกตน จนชนะผ่านเข้า
มาเล่นจนถึงรอบนี้ และฝากความหวังไว้กับซานาดะและไรจิ ให้ช่วยพาโค้ชไปโคชิเอ็งแทนพวกตนด้วย
ส่วนพวกตนนั้นจะรอฟังชื่อของทั้งสองคนโด่งดังไปทั่วประเทศ

ในขณะที่เซย์โดต่างก็ได้รับเสียงเชียร์ให้ไปโคชิเอ็งให้ได้ ส่วนซาวามูระก็ยังครุ่นคิดถึงเรื่องของไรจิ
เพราะหลังจบการแข่งขัน เขาได้เข้าไปขอจับมือกับไรจิ พร้อมกับบอกว่าคราวหน้าเขาจะไม่มีทางแพ้
ไรจิอีกอย่างเด็ดขาด แต่มือที่ซากของไรจิทำให้ซาวามูระครุ่นคิด ถึงความจริงจังในการซ้อมเหวี่ยงไม้
ของอีกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้มากกว่าเดิม



+++++++

จบเล่ม 14