ดังนั้นแต่ละทีมจึงต้องฟอร์มทีมใหม่ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องเป็นธรรมดาที่ยังเล่นไม่เข้าขากันดีนัก
ยิ่งผู้เล่นเก่าอีโก้สูงๆ ด้วยแล้ว คงจะยอมรับผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาแทนคนเก่าที่เลิกเล่นไป ไม่ได้ในทันที
อย่างเช่น นารุมิยะ เมย์ เอชของอินาชิโระ ที่ได้ชื่อว่า เจ้าชายผู้เอาแต่ใจ นั้น ยังยอมรับ
ทาดาโนะ อิทสึกิ แคทเชอร์ปีหนึ่ง ที่มาแทนฮาราดะ อดีตกัปตันทีมและแคทเชอร์ที่เลิกเล่นไปไม่ได้
จึงทำให้อินาชิโระพ่ายให้กับทีมอุกุโมริไป ในศึกฤดูใบไม้ร่วงนี้
ไม่เข้มจริง เป็นโค้ชคุมทีมไม่ได้หรอกนะ... |
อินาชิโระทีมใหม่มีปัญหาภายใน ก็ใช่ว่าเซย์โดเองจะไม่มี ((แม้แต่ปัญหาก็ไม่ยอมน้อยหน้ากัน))
ทางนี้หวิดวางมวย |
ความขัดแย้งกันระหว่างมิยูกิ กัปตันทีมกับซูโนะ รองกัปตันนั้น ทำเอาบรรยากาศในทีมตึงเครียด
โดยเฉพาะในหมู่ผู้เล่นปีสอง จะมีแต่คุราโมจิ รองกัปตันอีกคนเท่านั้นที่ยังเฉยๆ เพราะเข้าใจ
ทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี จึงไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนเป็นพิเศษ
แต่เมื่อแข่งรอบสามเสร็จสิ้น รุ่นพี่ปีสามไม่ว่าจะเป็นอดีตกัปตันยูกิ และอดีตรองกัปตันอิซาชิกิ
ต่างก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้มิยูกิกับซูโนะ เริ่มปรับความตัวและเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น
บรรยากาศในทีมจึงกลับมาคึกคักเหมือนเดิม (รุ่นพี่อย่างเท่ห์...หุหุหุ)
รอบสาม
การแข่งรอบสามเป็นการพบกันระหว่างเซย์โดกับทีมอุกุโมริ ที่เอาชนะอินาชิโระมาได้
บรรยากาศภายในทีมเซย์โดยังอึมครึมเพราะความขัดแย้งกันระหว่างมิยูกิกับโซโนะ แต่ว่าทั้งคู่เลือก
ที่จะปล่อยวางปัญหานั้นไว้ก่อน เพื่อลุยกับการแข่งให้เต็มที่
การแข่งนัดนี้ฟุรุยะกลับมาลงเป็นสตาร์ทเตอร์ได้อีกครั้ง แต่ก็เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เมื่อปล่อยวอล์กไป
สองครั้งติดกัน เมื่อถึงตาอุเมมิยะ เอชของทีมอุกุโมจิและเป็นคลีนอัพของทีมด้วยขึ้นมาตี
คำพูดของเขาที่ว่า "อย่าวิ่งหนีไปซะล่ะ" ที่ฟุรุยะ ซาวามูระและฮารุจจิบังเอิญ
ไปเจอในห้องน้ำก่อนการแข่งขันนั้น ทำให้ฟุรุุยะมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะดวลกันกับไม้นี้
จึงขว้างบอลไปตรงกลางโดนไม่สนใจสัญญาณขอบอลของมิยูกิแม้แต่น้อย
อุเมมิยะตีโฮมรันได้ ทำให้อุรุโมจิออกนำไปก่อน 3 คะแนน มิยูกิจึงขอเวลานอก
และต่อว่าฟุรุยะ ทำให้ฟุรุยะได้สติ และไม่ปล่อยคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามอีก
เมื่อเซย์โดเป็นฝ่ายบุก การขว้างบอลของอุเมมิยะสร้างปัญหาให้กับไลน์อัพของเซย์โดไม่น้อย
แต่เมื่อถึงตาของมิยูกิขึ้นมาตี เขาก็สามารททำฮิทได้ เพราะได้ดูบันทึกการแข่งระหว่างของอุกุโมจิ
กับอินาชิโระที่นาเบะบันทึกมาให้ คุราโมจิจึงวิ่งกลับจุดโฮมได้ เซย์โดทำคะแนนไล่ตามมาหนึ่งแต้ม
โซโนะที่เป็นไม้ต่อจากมิยูกินั้น แม้จะทะเลาะกันแต่ก็ยอมรับในความสามารถของมิยูกิ ทำให้เขา
ยอมแพ้ในเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วก็สามารถทำฮิทได้เช่นเดียวกัน มิยูกิวิ่งกลับจุดโฮมได้ ทำคะแนนไล่ตามมา
อีกหนึ่ง ซึ่งเกมรับของเซย์โดหลังจากนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะฟุรุยะกลับมาขว้างบอลได้เหมือนเดิม
ทำสไตร์คเอาท์แบทเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามได้ในเวลารวดเร็ว
ทาดาโนะ แคทเชอร์คนใหม่ของทีมอินาชิโระ ที่โค้ชสั่งให้มาดูการแข่งครั้งนี้กับฟุคุ กัปตันทีมคนใหม่นั้น
รู้สึกทึ่งไม่น้อยเมื่อเห็นการเล่นของมิยูกิ ที่สามารถดึงฟุรุยะกลับมาเล่นในเกมได้เหมือนเดิม หลังจากที่
ฟุรุยะแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยากจะดวลกับคลีนอัพฝ่ายตรงข้ามและไม่หวั่นไหวไปกับลูกโฮมรัน
ที่เสียไป ซึ่งตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงที่ไม่สามารถดึงนารุมิยะกลับมาสู่เกมได้
ฟุคุที่เห็นท่าทีของทาดาโนะเป็นแบบนั้น จึงเข้าใจเหตุผลว่า ที่โค้ชให้มาดูการแข่งครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อให้มาดู
การแข่งของทีม แต่ให้ทาดาโนะได้มาดูการเล่นของมิยูกิต่างหาก
เซย์โดทำการบุกได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อจบอินนิ่งห้าแล้ว จึงมีคะแนนขึ้น 6 - 3 แต่เมื่อถึงอินนิ่งที่เจ็ด
มิยูกิเริ่มรู้สึกว่าสปีดบอลของฟุรุยะตกลงและบอลไม่ทรงพลังเหมือนเดิม สาเหตุก็มาจากฟุรุยะ
ได้รับบาดเจ็บตอนวิ่งขึ้นเบส แต่ไม่ได้บอกใคร
จบอินนิ่งเจ็ด เซย์โดยังเป็นฝ่ายนำอยู่ 8 - 3 แต่ผู้เล่นทีมอุกุโมจิก็ยังมีกำลังใจดีอยู่ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เมื่อขึ้นอินนิ่งแปด อุเมมิยะสามารถทำฮิทได้ ทำให้แบทเตอร์คนต่อไปเกิดความฮึกเหิม จึงตีบอลของ
ฟุรุยะได้ด้วยเช่นกัน อุเมมิยะวิ่งกลับจุดโฮมได้ อุกุโมจิทำคะแนนไล่ตามมาอีกหนึ่ง
จากการบุกจู่โจมอย่างต่อเนื่องทำให้อุกุโมจิทำคะแนนไล่ตามมาเป็น 8 -7 ทำให้ผู้เล่นเซย์โดเริ่มวิตก
เพราะตอนนี้กระแสเกมเป็นของทีมอุกุโมิจิ ซาวามูระทนดูไม่ได้จึงตะโกนโววายอยู่ข้างสนาม
แต่คำพูดของซาวามูระกลับทำให้ผู้เล่นของเซย์โด กลับมาฮึดได้โดยเฉพาะฟุรุยะที่กลับมา
ทำสไตร์คเอาท์ ปิดเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามได้
เมื่อถึงอินนิ่งเก้าซึ่งเป็นอินนิ่งสุดท้าย โค้ชคาตาโอกะส่งซาวามูระลงไปเล่นแทนฟุรุยะ ในภาวะกดดัน
ที่กองเชียร์ทั้งสนามต่างส่งเชียร์ทีมอุกุโมจิ
ชอบฉากนี้เป็นการส่วนตัว...เกรียนพี่กับแสบน้อง...เขาวางแผนร้ายกันล่ะ |
แม้ซาวามูระจะเริ่มขว้างได้ไม่ค่อยดีนะ เพราะรู้สึกเกร็งที่กรรมการขานบอลวงนอกมุมต่ำ ที่ตัวเองคิดว่า
เป็นสไตร์ค เป็น "บอล" ทำให้เขาควบคุมบอลไม่ได้ แต่เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับอุเมมิยะ ซี่งถ้าสามารถ
ทำเอาท์ได้ เซย์โดก็จะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าอุเมมิยะตีได้ก็อาจจะทำให้อุกุโมริพลิกกลับมาชนะได้เช่นกัน
อุเมมิยะตีบอลของซาวามูระได้ แต่เป็นบอลฟาวล์ไป ทำให้ซาวามูระเริ่มเครียด อีกทั้งอุเมมิยะยังกดดัน
ให้ซาวามูระอยากจะดวลกับตน บอลที่ขว้างไปจึงเริ่มจะพุ่งเข้าตรงกลาง มิยูกิสังเกตเห็นเรื่องดังกล่าว
แม้ซาวามูระตั้งใจจะขว้างบอลตามที่ตนขอ แต่สัญชาตญาณของพิทเชอร์ที่ถูกท้าทายทำให้ขว้างบอล
เข้าตรงกลางโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่ทาดาโนะที่ตั้งใจดูมิยูกิอยู่ ก็สังเกตเห็นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกับที่เคยขึ้นกับ
นารุมิยะ ในการแข่งที่อินาชิโระแพ้ให้กับอุกุโมริ เขาจึงอยากจะรู้ว่ามิยูกิจะทำอย่างไร
การที่คนดูต่างก็เห็นว่า ซาวามูระที่ขว้างได้แต่ฟาสต์บอล เอาแต่ขว้างบอลวงนอกนั้น ต่างก็คิดกันไปว่า ซาวามูระกลัวการดวลกันกับอุเมมิยะจึงพยายามเลี่ยงขว้างลูกวงใน
โค้ชโอจิไอที่คอยจับตาดูอยู่ก็คิดว่านี่คือนัดสุดท้ายของโค้ชคาตาโอกะที่จะคุมทีมเซย์โดแล้ว
ในขณะที่ฟุคุบอกว่า แคทเชอร์คงจะขอบอลง่ายขึ้น ถ้าซาวามูระสามารถขว้างบอลอย่างอื่นที่
ทำให้แบทเตอร์กะจังหวะพลาดได้ ทาดาโนะที่เป็นแคทเชอร์เหมือนกันจึงบอกว่า แคทเชอร์สามารถ
ขอบอลอะไรก็ได้ถ้าพิทเชอร์มีความสามารถ แต่ตรงกันข้ามถ้าพิทเชอร์ไม่มีฝีมือพอ แคทเชอร์ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
ซึ่งทาดาโนะก็นึกเปรียบเทียบกับตนเองขึ้น ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้งๆ ที่นารุมิยะเป็นพิทเชอร์
ที่มีความสามารถมากระดับประเทศเลยก็ว่าได้
ในที่สุดมิยูกิก็ตัดสินใจขอลูกคัตเตอร์วงใน ตามคำแนะนำของโค้ชคาตาโอกะก่อนแข่ง
ที่ให้ใช้ลูกวงในเป็นตัวหลอกล่อคู่ต่อสู้ ในเกมที่สู้กันด้วยบอลวงนอก และซาวามูระก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
เมื่อสามารถขว้างลูกคัตเตอร์วงในได้ และเอาท์อุเมมิยะไปได้ ทำให้จบเกมเซย์โดเป็นฝ่ายเอาชนะ
ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
สมกับเป็นพี่เกรียนน้องแสบจริงๆ ค่ะ อ่านตัวเต็มต้องน้ำตาไหลแน่ๆ ที่เอย์จุนกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้ง //กอดน้องรัวๆ
ตอบลบขอบคุณสำหรับสปอยมากเลยนะคะ เราตามดิบ แต่อ่านไม่รู้เรื่อง ได้แต่เสพภาพอย่างเดียว //พรากกกก